วิเคราะห์บอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2013-14 เวลาเตะ : 01:45 น. รอบรองเอาชนะเลิศนัดแรก วันพุธที่ 23 เมษายน 2557 เรอัล มาดริด - บาเยิร์น มิวนิค สนาม : ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1 (ช่อง 681) ผลงานฉลอง 5 นัดปฤษฎางค์สุดของทั้ง 2 ทีม เรอัล มาดริด
17/04/2014 บาร์เซโลน่า 1 - 2 เรอัล มาดริด
13/04/2014 เรอัล มาดริด4 - 0 อัลเมเรีย
09/04/2014 ดอร์ทมุนด์ 2 - 0 เรอัล มาดริด
06/04/2014 โซเซียดาด 0 - 4 เรอัล มาดริด
03/04/2014 เรอัล มาดริด 3 - 0 ดอร์ทมุนด์
บาเยิร์น
19/04/2014 บราวน์ชไวก์ 0 - 2 บาเยิร์น
17/04/2014 บาเยิร์น 5 - 1 ไกเซอร์ฯ
12/04/2014 บาเยิร์น 0 - 3 ดอร์ทมุนด์
10/04/2014 บาเยิร์น 3 - 1แมนฯ ยูไนเต็ด
05/04/2014 เอาก์สบวร์ก 1 - 0 บาเยิร์น
เรอัล มาดริด เส้นโอกาสการลุ้น ลา เดซิม่า หรือแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 10 มาถึงช่วงยิ่งใหญ่แล้ว เมื่อ เรอัล มาดริด ต้องมาพบกับแชมป์เก่าอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่งานง่าย เพราะผู้ร่วมความคิดเขายังมีสิ้นสุดลีกให้ต้องเน้นอีก ผิดกับคู่ประกวดประขันที่ได้แชมป์ บุนเดสลีกา ไปเรียบร้อยแล้ว
เกม นี้ข่าวดีของ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็คือการกลับมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซูเปอร์สตาร์ หายจากอาการบาดเจ็บปวดหัวเข่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ต้องโชคชั่วร้ายที่มีข่าวว่า แกเร็ธ เบล ดันป่วย ล่าสุดเจ้าตัวมีลุ้นลงสนามหลังกลับมาซ้อมได้ทันกาล ส่วนในรายของ อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เฆเซ่ โรดริเกวซ และ มาร์เซโล่ บาดเจ็บอยู่ทั้งหมด
ราชัน ชุดขาว จะมาในระเบียบ 4-3-3 เช่นเดิม โดยผู้รักษาช่องจะใช้ อีเคร์ กาซิยาส เฝ้าเสา กองหลัง 4 คนส่ง ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส และ ฟาบิโอ โกเอนเตรา กองกลางเป็น ชาบี อลอนโซ่, ลูก้า โมดริช และ อิสโก้ ท่อนกองหน้าส่ง อังเคล ดิ มาเรีย, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม (4-3-3) : อีเคร์ กาซิยาส - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - ชาบี อลอนโซ่, ลูก้า โมดริช, อิสโก้ - อังเคล ดิ มาเรีย (เบล), คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า
บาเยิร์น มิวนิค บาเยิร์น มิวนิค พร้อมแล้วที่จะเป็นสโมสรแรกในประวัติศาสตร์ ที่ป้องกันแชมป์รายการนี้ไว้ได้ แต่ในรอบรองชนะเลิศหนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อพวกเขาที่เป็นเต็งหนึ่ง ต้องมาเจอเต็ง 2 อย่าง เรอัล มาดริด ทำให้ต้องเหนื่อยหนักกว่าเดิม แต่ยังดีที่พวกเขาไม่มีโปรแกรมหนักในช่วงนี้
นอก จาก ติอาโก้ อัลคันตาร่า, ดีเอโก้ คอนเต็นโต้ และ เซอร์ดาน ชากิรี่ 3 แข้งที่ได้รับบาเจ็บแล้ว ทัพ เสือใต้ ไม่มีอะไรต้องห่วงมากนัก เพราะได้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ และ ฆาบี มาร์ติเนซ 2 กองกลางที่พ้นโทษแบนกลับมา แถมยังได้ มานูเอล นอยเออร์ กลับมาแล้วด้วย เรียกว่าฟูลทีมเลยทีเดียว
กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเกมเลกแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบที่ผ่านมา โดยจะส่ง ฟิลิปป์ ลาห์ม ลงเป็นมิดฟิลด์คู่กับ ชไวนี่ แล้วใช้ ราฟินญ่า เล่นเป็นแบ็กขวา ส่วนแนวรุกน่าจะเป็น ฟร้องค์ ริเบรี่, อาร์เยน ร็อบเบน และ โธมัส มุลเลอร์ โดยมี มาริโอ มานด์ซูคิช เป็นหน้าเป้า
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - ราฟินญ่า, ดานเต้, เยอโรม บัวเต็ง, ดาบิด อลาบา - ฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ - มาริโอ มานด์ซูคิช
ข้อมูลน่าสนใจ • บาเยิร์น มิวนิค มีสถิติการพบกับ เรอัล มาดริด ที่เช้งวับหรูมาก โดยทั้งหมด 20 หนพวกเขาชนะได้ถึง 11 เกม
• แต่ถ้านับเฉพาะการเล่น
บอลในถิ่น ซานติอาโก เบร์นาเบว เสือใต้ ชนะได้แค่ 2 เกม โดยแพ้ไปถึง 7 เสมอ 1
• ทั้ง 2 ทีม เจอกันในรอบรองชนะเลิศรายการนี้มาแล้ว 5 ครั้ง โดยมีแค่ปี 2000 ที่ เรอัล มาดริด ผ่านเข้ารอบชิงฯ ได้
• 2 หนล่าสุดที่ ราชันชุดขาว เป็นแชมป์รายการนี้ (ฤดูกาล 1999-00 และ 2001-02) พวกเขาต้องเจอกับ เสือใต้ ทั้ง 2 หน และสามารถเอาชนะได้ โดยในปี 2000 เอาชนะรอบรองชนะเลิศ ส่วนปี 2002 พวกเขาชนะรอบ 8 ทีมสุดท้าย
• ลอส บลังกอส ไม่แพ้ใครในนิวาสสถานมาแล้ว 17 เกมติดต่อกันใน
ฟุตบอลยุโรป ซึ่งครั้งล่าสุดที่พวกเขาพ่ายคายบ้านคือการพบกับ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2011 (แพ้ 0-2) โดยกุนซือคู่แข่งในวันนั้นเป็น โจเซฟ กวาร์ดิโอลา เทรนเนอร์ บาเยิร์นฯ ในปัจจุบัน
• เรอัล มาดริด ตกรอบรองปราบเลิศมาแล้ว 3 ปีติดต่อกัน ซึ่ง 2 หนล่าสุดนั้นปราชัยให้กับ บาเยิร์น มิวนิค
• แต่พวกเขาก็ฉกแชมป์ฟุตบอลยุโรปจากการเอาปราบทีมจากเยอรมันในรอบชิงได้ถึง 3 หน แต่ก็ไม่ได้เป็นการพบกับ เสือใต้ (ชนะ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 7-3 ปี 1960, ชนะ โคโลญจน์ สกอร์รวม 5-3 ใน ยูฟ่า คัพ ปี 1986 และชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-1 เมื่อปี 2002)