วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

โปรแกรมบอล: แมตช์อำลา เจอร์ราร์ด,ผีแดงบนความปราชัย,โจอี้ บาร์ตัน

ล่าสุด!!! อลอนโซ่ - ตอร์ - ซัวเรซ ร่วมแข่งแมตช์อำลา เจอร์ราร์ด




หลังจากที่เหล่าแข้งทีมหงส์แดง ได้เตรียมรีเทิร์นกลับคืนถิ่นแอนฟิลด์ เพื่อลงสนามเตะในเกมเทสติโมเนียลแมตช์อำลา ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ของกัปตัน สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมนี้

ซึ่งเมื่อสื่อกีฬาเมืองผู้ดี รายงานข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ทีมลิเวอร์พูล ได้ทำหนังสือเชิญ

  1. ชาบี้ อลอนโซ่
  2. เฟอร์นานโด ตอร์เรส
  3. หลุยส์ ซัวเรซ 
  4. ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 
  5. เปเป้ เรน่า 

เพื่อให้เข้าร่วมเกมฟุตบอลนัดพิเศษเทสติโมเนียลแมตช์ อำลา ทีมลิเวอร์พูล ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด

โดยที่ทั้งหมดนั้นล้วนเคยเล่นให้กับ ทีมหงส์แดง อีกทั้งได้ร่วมงานกับกัปตัน สตีวี่จี มาก่อน โดยกองกลางในวัย 34 ปีชาวอังกฤษ จะย้ายไปอยู่กับ ทีมลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ สโมสรในศึกเมเจอร์ลีก ซ็อคเก้อร์ สหรัฐอเมริกา หรือ เอ็มแอลเอส หลังจบฤดูกาลนี้

และทั้งนี้ การจัดแมตช์อำลาให้กับ เจอร์ราร์ด ก็เพื่อเป็นการเชิญชูเกียรติที่อยู่รับใช้เดอะ ค็อป มาอย่างยาวนานถึง 17 ปี และงานจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมนี้ ที่สนามแอนฟิลด์

ทีมผีแดงบนความปราชัย ในเชิงลูกหนัง!



และสำหรับผลงานของ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระดับห่วยสิ้นดี เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา หลังบุกไปพ่าย ทีมสวอนซี 1 - 2 พร้อมกับโดนย้ำแค้นแบบ - ทั้งไป และ กลับ

ซึ่งความอึดอัด ความพะอืดพะอม ตลอด 90 นาที นี่ถ้าไม่นับลูกการเข้าทำแบบสวยหรูในจังหวะขึ้นนำ 1 - 0 จากลูกยิงของ อันเดร์ เอร์เอร่า ก็ต้องขอบอกว่า ตลอดเกมเล่นได้ตามมาตรฐาน คือ ห่วยเหมือนเดิม

และถึงตรงนี้ ใครที่เป็นแฟนๆ ทีมปีศาจแดง ก็มิอาจปฏิเสธความเป็นจริงว่า ฟอร์มแบบนี้คงต้องกระเสือกกระสนไปยันจบฤดูกาลแน่นอน ในการคั่วโควต้าไปลุยถ้วย ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก

และ คำถามต่างๆมากมาย ได้วิ่งตรงไปยังผู้เป็นนายใหญ่ อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล พร้อมกับคำถามเดิมๆ ว่า จนป่านนี้ ทำไมยังหา 11 ตัวจริงไม่ได้สักที!

และหลังจากที่ ทีมที่อุดมไปด้วยผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลก นั้นได้กลับสำแดงเดชในสนามได้แค่นี้นะหรือ? คิดๆ แล้วก็เจ็บปวดแทนบรรดา ทีมเร้ดอาร์มี่




และผู้เล่นอย่าง อังเคล ดิมาเรีย นั้นเริ่มต้นแบบสุดหรู แต่หลังจากผ่านมา 3 เดือน กลับถอยหลังลงคลอง อาวุธหลักอย่างการเปิดบอลระดับแม่นเป็นจับวางหายไปหมด

โดยฟอร์มเปรี้ยงปร้าง เมื่อต้นซีซั่น ได้หายเข้ากลีบเมฆไปซะอย่างงั้น

เมื่อถึง ณ จุดหนึ่งที่รู้สึกได้เลย ถึงสาเหตุ ที่ส่งให้ผลงานให้พลพรรค ทีมผีแดง ฟอร์มไม่เอาอ่าวยามนี้ คือ ความมั่นใจ

และทุกคนกำลังขาดมั่นใจ ที่สำคัญคือสภาวะความไม่มั่นใจในตัวเองเอาซะเลย




ก็จะยกตัวอย่างได้คือ ลุค ชอว์ ที่ย้อนไปเมื่อซีซั่นก่อนที่อยู่กับ ทีมนักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน ฟอร์มนี่เข้าตา เกมรุกสะเด่าเหลือหลาย

แต่ว่าหลังจากมาอยู่บนยูนิฟอร์ม ทีมปีศาจแดง กลับฟอร์มหลุด ฟอร์มหาย พร้อมกับเดินหน้าเข้าโรงหมอ มากกว่าอยู่ในฟลอร์หญ้าซะอีก

และสิ่งที่แฟนๆ ทีมแมนฯยูไนเต็ด ในซีซั่นนี้ ตั้งความหวังหลังจากผ่านเกมหายนะเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

ก็คงจะต้องขอบอกว่า ขอแค่ทีมรักประคองตัวเอง แล้ววิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมโควต้าไปลุยบอล ยุโรปถ้วยใหญ่ก็เป็นพอ ถึงแม้ว่าฟอร์มแบบไหนก็ช่างหัวมันเถอะ




ส่วนในด้าน ฟุตบอล เอฟเอคัพ นั้นจะไปถึงแชมป์หรือไม่แฟนๆ คงไม่แยแสเท่าไหร่นัก ประมาณว่าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

แต่ว่าเชื่อเถอะ หากซีซั่นนี้ลงเอย ด้วยการไม่ติด 1 - 4 ของลีก บอกเลยว่างานนี้อาจถึงขั้นวงแตกแน่นอน

ทั้งนี้คนที่จะโดนเชือดคือผู้ที่นั่งอยู่บนบังลังก์กุนซือ ด้วยโดนข้อหาฉกรรจ์จากผู้บริหาร

และนั่นคือข้อหา I ทุ่มเงินซื้อนักเตะขนาดนี้ You ทำทีมได้แค่นี้เหรอวะ

เขียนเรื่องโดย บ.ส้มซิ่ง

คลิ๊กชมคลิป ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก ครบทุกคู่ แบบชัดๆ ระดับ HD ได้ที่นี่


border=0

ฟุตบอล โจอี้ บาร์ตัน ใช้มือกระทุ้งเจ้าโลกคู่แข่ง +คลิป



หลังจากที่ โจอี้ บาร์ตัน กัปตันทีมของ ทีมQPR ก่อเหตุฉาวโฉ่อีก เมื่อตั้งใจใช้มือกระทุ้งเจ้าโลกคู่แข่ง จนโดนไล่ออกจากสนาม

สำหรับเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นระหว่างในศึกพรีเมียร์ลีก นัดวันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในเกมที่ ทีมฮัลล์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ ทีมควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 2 - 1

ซึ่งเกมในครึ่งแรก นาทีที่ 33 ตัวของโจอี้ บาร์ตัน กับตันทีมอารมณ์ร้อน กำลังมีปากเสียงกับผู้เล่นของเจ้าถิ่น

โดยขณะที่กำลังปะทะคารมณ์กันดุเดือด บาร์ตัน ได้ออกอาวุธเด็ด นั่นคือการยื่นมือไปกระทุ้งเข้าที่กล่องดวงใจของ ทอม ฮัดเดิ้ลสโตน มิดฟิลด์ของ ทีมฮัลล์ ซิตี้ แบบตั้งใจสุดๆ

และหลังจากนั้นผู้ตัดสิน ก็ตาไวพอที่จะเห็นช็อตดังกล่าว เลยจัดการมอบใบแดงตอบแทนความเกเรของมิดฟิลด์พันธุ์ดุรายนี้ในทันที




border=0


วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ประกาศโปรแกรมบอล: รวมกลุ่มข้อมูลกีฬาข้างในลีกต่างๆปนทั้งการค้านักเตะรอบพื้นที่ 2

สมาคมเอฟเอตั้งข้อหา ฟาน กัล




ภายหลังที่หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์เลือเลื่องดดัตช์วัย 63 ปี ผู้จัดการ กลุ่มผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ใช่ไหม เอฟเอ ตั้งข้อหา หลังจากที่ให้สัมภาษณ์ตำหนิกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดแรก ที่บุกไปเสมอ ฝ่ายเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด 1 - 1

เพราะว่าหลังจากจบเกมเอฟเอ คัพ 2014 - 2015 รอบ 4 นัดแรก ที่ หมู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอ ฝ่ายเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด 1 - 1 พร้อมกับ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือผีแดงออกมาให้สัมภาษณ์แสดงความไม่พอใจหลายๆ อย่างในการแข่งขันที่ดูจะไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งได้ตำหนิในการทำหน้าที่ของ คริส ฟอย ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าว

พร้อมด้วยล่าสุด หลุยส์ ฟาน กัล ไม่รอด พอเอฟเอนั้นได้ออกมาตั้งข้อสมมุติับนายใหญ่ประจำถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้มีเวลาให้ยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้ข้อกล่าวหาถึงวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ ก่อน 18.00 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 01.00 นาฬิกา ของวันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ ตามเวลาบ้านเรา


หนุ่มลีกดิวิชั่น 8 ซบกลุ่มพาเลซหลังซัดแฮตทริค 6 นาที




เพราะว่าที่ เคชี่ แอนเดอร์สัน หัวหอกดาวรุ่งของสโมสร ฝ่ายบาร์ตัน โรเวอร์ส คณะจากเซาเทิร์น ลีก ดิวิชั่น วัน เซนทรัล ใช่ไหม ลีกอังกฤษ ดิวิชั่น 8 ชีวิตเหมือนฝันราวดั่งนิยาย หลังกลายมาเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีก ตามฝันได้สำเร็จ เพราะว่าเจ้าตัวขนส่งซบ หมู่คริสตัล พาเลซ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนตลาดซื้อ - ขายปิดลงครั้งวันจันทร์ที่ทะลวงมา หลังซัดแฮตทริคใส่ พวกพาเลซ เพราะว่าใช้เวลาปาง 6 นาที

และกองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปี ยังได้โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมซัดไป 19 ประตู จาก 19 เกม ก่อนมาลองเชิงฝีเท้ากับ เบรนท์ฟอร์ด คณะในเดอะแชมเปี้ยนชิพ เมื่อสัปดาห์ที่พ้นมา พร้อมทั้งได้ลงเล่นเกมอุ่นเครื่อง ฝ่ายคริสตัล พาเลซ เพราะว่าเจ้าตัวลงมาเป็นตัวสำรองในนาที 65 แต่ใช้เวลาห่างกันพางแค่ 6 นาที ก็เก่งถล่มแฮตทริคได้ ทำให้ อลัน พาร์ดิว รีบดึงมาร่วมทีมอย่างรวดเร็ว

โดยได้มีรายงานอีกว่า เคชี่ แอนเดอร์สัน รับทรัพย์จากการเซ็นสนธิสัญญา 30000 ปอนด์ จากเดิมรับค่าแรงกับ บาร์ตัน แค่ 200 ปอนด์ต่อเดือนเท่านั้น




ตัวเลนน่อน บรรยายปัด หมู่สโต๊คเลือเลื่องกไป ฝ่ายเอฟเวอร์ตัน แบบยืมตัว




หลังจากที่ ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน นั้นได้ประสบความสำเร็จในการคว้าตัว อาร่อน เลนน่อน ปีกวัย 27 ปีชาวอังกฤษของ พวกไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาเสริมทัพเป็นที่เรียบร้อย ก่อนตลาดรอบ 2 จะปิดตัวลง ในแบบหนังสือสัญญาหยิบยืมตัวจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้ อนุญาตให้ ทีมสโต๊ค ซิตี้ ซดแห้วไปตามระเบียบ

ซึ่งอาร่อน เลนน่อน ปีกตัวจี๊ดของ คณะไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ปฎิเสธที่จักไม่ร่วม พวกช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ แต่เละบือกซบตัก หมู่ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน แทน ทั้งนี้อยู่ภายใต้สนธิสัญญากู้ตัวใช้งานจนจบฤดูกาล 2014 - 2015

พร้อมทั้งสาเหตุการอพยพฝ่ายของ เลนน่อน เป็นที่ทราบกันดีว่าภายใต้การคุมฝ่ายของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือคนใหม่ของถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน เจ้าตัวไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากเท่าไหร่ในซีซั่นนี้ ซึ่งได้ลงเล่นในลีกไปพาง 9 นัดเท่านั้น พร้อมด้วยกลายเป็นตัวเละบือกรองจาก 1.นาเซอร์ ชาดลี่ กับ 2.อันดรอส ทาวน์เซนด์

เพราะที่เลนน่อน วัย 27 ปีลงเล่นให้กับทัพ ฝ่ายไก่เดือยทอง มาตั้งแต่ปี 2005 รวมแล้วถึงโอกาสนี้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 267 นัด กับทำไปได้ 26 ประตู

ซวยแท้จริงๆ! ตากล้องตกงานหลังถ่าย เลนน่อน หน้าบูด




หลังจากที่ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ที่เป็นกุนซือ หมู่ฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน เกิดอาการเหวี่ยงช่างภาพสโมสรที่ถ่าย อารอน เลนน่อน ปีกความเร็วสูงคนใหม่ ออกมาหน้าตาบูดบึ้งตลอดการเริ่มมาร่วมทัพภายใต้สาบานกู้ยืมตัวจาก กรุ๊ปสเปอร์ส

เพราะว่าที่หลายต่อหลายรูปที่ปรากฎออกสื่อนั้น มาจากฝีมือของ ปีเตอร์ ไบร์น ที่เป็นคนถ่ายภาพ แต่ปรากฏว่าหน้าตาของ เลนน่อน แทบจักทุกภาพนั้น ดูจักไม่มีความสุขเอาเสียเลยที่ต้องยักมาร่วมทัพ กลุ่มทอฟฟี่สีน้ำเงิน





ซึ่งมาร์ติเนซ ได้กล่าวว่า สุทธิๆแล้ว เขาแฮปปี้มากๆเลยนะที่มาเล่นกับเรา ช่างภาพห่วยมากที่ทำให้ออกมาเป็นแบบนี้ เพราะว่ามันเป็นหน้าที่ของเขา ที่จะต้องทำให้นายแบบยิ้มสวยๆ

และสภาพร่างกายเขาฟิตเปรี๊ยะ พร้อมทั้งพร้อมเป็นส่วนสำคัญของทีมของเราสำหรับเกมสุดอาทิตย์นี้ด้วย

เขาพูดว่า เราดีใจมากๆ พร้อมกับรู้ว่าเวลานี้มีหลายต่อหลายคน กำลังพูดถึงเรื่องภาพถ่ายเหล่านั้น ผมจะให้กรุ๊ปหาช่างภาพคนใหม่ ก็เพราะว่าผมก็หงุดหงิดเหมือนกัน




เหล่าบาร์ซ่าเตรียมเปลี่ยนชื่อสนามเป็น กาตาร์ แอร์เวย์ส




ทีมบาร์เซโลน่า นั้นเตรียมเปลี่ยนชื่อสนาม คัมป์ นู หลังทีมต้องทำตามข้อตกลงของผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่าง กาตาร์ แอร์เวย์ส สายการบินยักษ์ใหญ่

ซึ่งสนาม คัมป์ นู ชื่อนี้อาจไม่มีอีกถัดจากนั้น หลังมีรายงานว่า พวกบาร์เซโลน่า ที่เป็นคณะยักษ์ใหญ่ลา ลีกา สเปน เตรียมเปลี่ยนชื่อสนามใหม่ ในขณะที่เหล่ากำลังพยายามเจรจาทำคำสัญญาฉบับใหม่กับ กาตาร์ แอร์เวย์ส สายการบินยักษ์ใหญ่จากตะวันออกกลาง

ฝ่ายบาร์เซโลน่า ยอดคณะแห่งศึก ลา ลีกา สเปนกำลังจะหมดคำสัญญากับสายการบินอาหรับ เพราะว่าจักทำให้กรุ๊ปได้เงินสนุบสนุนกลุ่มมากถึง 25 ล้านปอนด์ต่อปีในปี 2016 ซึ่งขณะนี้พวกกำลังพยายามโปรแกรมบอลขยายข้อสัญญาใหม่อยู่

เพราะที่ อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ที่เป็น ซีอีโอของกาตาร์แสดงตนว่ามีโอกาสที่จักใช้ชื่อของบริษัทเป็นชื่อสนามความจุ 99000 ที่นั่ง ในการเป็นชื่อใหม่ของรังเหย้าของ คณะบาร์ซ่า

และก่อนหน้านี้ หมู่ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด คู่ปรับร่วมลีกก็มีแผนเปลี่ยนชื่อสนามตามสปอนเซอร์ของทีมเช่นกัน จาก สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว เป็น สนามดิ อาบู ดาบี เบร์นาเบว นั่นเอง

ที่มา: http://footballclubpza.blogspot.com/

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ข่าวฟุตบอล: การรบบอลพรีเมียร์ลีกนัดที่ 23 ปี 2558

ฟุตบอล: เรือบุกเจ๊าสิงห์บลูส์1-1ตามหลัง5แต้มเท่าเดิม



  • การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2014-2015 นัดที่ 23
  • การแข่งวันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2558
  • กรุ๊ปเชลซี 1 - 1 กลุ่มแมนเชสเตอร์ ซิตี้
  • แข่งที่สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
  • กรรมการผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก


วิเคราะห์ผลบอล: ในนาทีที่ 7 หมู่แมนฯซิตี้ ได้ลุ้นประตูจาก แฟร์นันดินโญ่ หลุดเข้าเขตโทษทางด้านขวาก่อนจะยิงหลุดกรอบออกหลังไป

เพราะนาทีที่ 24 พวกเยือนมีโอกาสจาก เซร์คิโอ อกูเอโร่ กระซากบอลหนี เคิร์ต ซูม่า ก่อนยิงไปโดน ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดบอลออกไปได้

ต่อมานาทีที่ 33 ฝ่ายเรือใบ เล่นเกมสวนกลับเร็วพร้อมทั้ง จอห์น เทอร์รี่ สกัดบอลพลาด ทำให้ เซร์คิโอ อกูเอโร่ หลุดไปดวล ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก่อนยิงหลุดเสาออกหลังนิดเดียว

ซึ่งนาทีที่ 42 เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำเมื่อ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช โยนบอลไปให้ เอแด็น ฮาซาร์ด ปาดเร็วจากด้านซ้ายมาหน้าประตู โลอิก เรมี่ เข้าชาร์จไม่พลาด 1 - 0

พร้อมทั้งนาทีที่ 45 หมู่เยือนตามตีเสมอทันควันทันทีที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ตัดบอลพลาดจนเข้าทาง เซร์คิโอ อกูเอโร่ ยิงอัดเข้ามาแล้ว ดาบิด ซิลบา ล้มตัวจิ้มเข้าไปเป็น 1 - 1

ต่อมานาทีที่ 55 กรุ๊ปแมนฯซิตี้ มีลุ้นจากการโหม่งของ แฟร์นันดินโญ่ ก่อนที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ จักกระโดดปัดบอลออกหลังไป

ในช่วงท้ายเกมคณะเยือนบุกหนักหวังยิงประตูขึ้นนำให้ได้ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จจนจบเกม 90 นาทีเสมอกันไป 1 - 1 แบ่งกลุ่มละแต้ม ทำให้ช่องว่างยังห่างกัน 5 คะแนนเท่าเดิม


มาดูรายชื่อผู้เล่นทั้งสองกรุ๊ป


กลุ่มเชลซี : ระบบ 4-2-3-1
  • ตำแหน่งผู้รักษาประตู : 1.ติโบต์ กูร์กตัวส์
  • ตำแหน่งกองหลัง : 2.บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, 3.เคิร์ต ซูม่า, 4.จอห์น เทอร์รี่, 5.เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า
  • ตำแหน่งกองกลาง : 6.รามิเรส, 7.เนมันย่า มาติช – 8.วิลเลี่ยน, 9.ออสการ์, 10.เอแด็น ฮาซาร์ด
  • ตำแหน่งกองหน้า : 11.โลอิก เรมี่

คณะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ระบบ 4-2-3-1
  • ตำแหน่งผู้รักษาประตู : 1.โจ ฮาร์ท
  • ตำแหน่งกองหลัง : 2.บาการี่ ซานญ่า, 3.แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, 4.มาร์ติน เดมิเคลิส, 5.กาแอล กลิชี่
  • ตำแหน่งกองกลาง : 6.แฟร์นันดินโญ่, 7.แฟร์นันโด – 8.เฆซุส นาบาส, 9.ดาบิด ซิลบา, 10.เจมส์ มิลเนอร์
  • ตำแหน่งกองหน้า : 11.เซร์คิโอ อกูเอโร่

เป็นการถอนแค้นได้สำเร็จ! ผีแดงเปิดรังฝังจิ้งจอก 3 - 1 ขึ้นรั้งที่ 3





  • การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
  • แข่งวันเสาร์ที่ 31 มกราคม ปี 2558
  • ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 - 1 ทีมเลสเตอร์ ซิตี้
  • แข่งที่สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
  • กรรมการผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน

ภายหลังที่โหมโรงเกมครึ่งแรก เจ้าถิ่น หมู่แมนฯยูฯ ได้ลุ้นก่อน ในนาทีที่ 13 จากจังหวะปั่นนอกกรอบโทษของ อังเคล ดิ มาเรีย แต่บอลไปติดกำแพง

ต่อมานาทีที่ 22 เวย์น รูนี่ย์ จ่ายบอลคืนหลังพลาด เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ฉกบอลไปได้แต่โดนเบียด ทำให้จังหวะยิงทำได้ไม่ดีพอบอลข้ามคานออกไป

และถัดมาอีก 1 นาทีเจ้าถิ่น ได้โต้กลับ อังเคล ดิ มาเรีย ให้ ลุค ชอว์ พาบอลขึ้นไป ก่อนเปิดเข้ากลางให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้แปเน้นๆ แต่หลุดออกไป

ในนาทีที่ 26 จากความผิดพลาดของแนวรับเลสเตอร์ ทำให้ ดาเล่ย์ บลินด์ ตัดบอลได้ ก่อนโยนขึ้นหน้าให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยิงด้วยขวาทันที บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เจ้าถิ่น แมนฯยูฯ ออกนำ 1 - 0

นาทีที่ 31 กรุ๊ปแมนฯ ยูฯ ได้ขยับหนีห่างเป็น 2 - 0 ปาง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เก็บบอลได้ ก่อนแทงทะลุช่องให้ อังเคล ดิ มาเรีย พาบอลขึ้นกราบซ้าย ก่อนยิงมุมแคบ มาร์ค ชวาร์เซอร์ รับไม่ติดมือ ก่อนเป็น ราดาเมล ฟัลเกา ที่วิ่งตัดเข้ามาซ้ำจ่อๆ เข้าไป

นาทีที่ 43 ฝ่ายแมนฯยูฯ มาได้ประตูสาม จากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย เวย์น รูนี่ย์ เปิดเข้ากรอบโทษ ก่อนที่ ดาเล่ย์ บลินด์ จะวิ่งฉีกหนีตัวประกบออกมาโขกที่เสาแรก ด้วยกันเป็น เวส มอร์แกน ที่โหม่งสกัดพลาดเข้าประตูตัวเองไป

ทำให้จบครึ่งแรก กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำ เหล่าเลสเตอร์ ห่างถึง 3 - 0

ตั้งต้นเกมส์มาในครึ่งหลังผ่านไป 5 นาที เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูเพิ่มอีก อัดนาน ยานาไซ พาบอลขึ้นทางซ้าย ก่อนปาดเข้ากลาง ราดาเมล ฟัลเกา แหย่ไม่ถึงบอล ทำให้เข้ามือ มาร์ค ชวาร์เซอร์

นาทีที่ 56 อัดนาน ยานาไซ มีโอกาสลองส่องไกล แต่บอลลอยโด่งข้ามคานออกไป

นาทีที่ 60 เลโอนาร์โด้ อูยัว หลุดเดี่ยวเข้าไปโดยมี มาร์กอส โรโฮ วิ่งตามประกบไปด้วย แล้วล็อคเข้าในก่อนล้มลงในกรอบเขตโทษ กรรมการชี้ว่า อูยัว ล้มลงเอง แมนฯยูฯรอดตัวไป

นาทีที่ 79 คณะเลสเตอร์ มาตีไข่แตกได้สำเร็จไล่มา 1 - 3 เท่าที่ มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปิดไปเสาสอง ฟิล โจนส์ ขึ้นโหม่งไม่ถึง บอลเลยมาถึง มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ พุ่งโขกบอลเข้าไปเต็มๆ ถึงแม้จะโดนเท้า ดาบิด เด เกอา ก็ตาม

ทำให้จบเกม พวกปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถอนแค้นคืนสำเร็จ เปิดบ้านเอาชนะ หมู่เลสเตอร์ ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 3 - 1 เพิ่มเป็น 43 แต้ม ขยับขึ้นรั้งอันดับ 3 ชั่วคราว


ดูบัญชีชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองกลุ่ม

คณะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ระบบ  4 - 3 - 1 - 2  :
  1. ดาบิด เด เกอา 
  2. อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปลี่ยนตัว ฆวน มาต้า ลงมานาทีที่ 77
  3. ฟิล โจนส์
  4. มาร์กอส โรโฮ
  5. ลุค ชอว์ 
  6. อัดนาน ยานาไซ
  7. ดาเล่ย์ บลินด์
  8. อังเคล ดิ มาเรีย 
  9. เวย์น รูนี่ย์ 
  10. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เปลี่ยนตัว แพ็ดดี้ แม็คแนร์ ลงมานาทีที่ 69
  11. ราดาเมล ฟัลเกา เปลี่ยนตัว เจมส์ วิลสัน ลงมานาทีที่ 80

กลุ่มเลสเตอร์ ซิตี้ : ระบบ 4 - 3 - 3 :

  1. มาร์ค ชวาร์เซอร์ 
  2. แดนนี่ ซิมพ์สัน
  3. มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ 
  4. เวส มอร์แกน
  5. ริทชี่ เดอ ลาท 
  6. แดนนี่ ดริ้งวอเตอร์ 
  7. แอนดี้ คิง 
  8. เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ 
  9. อันเดรย์ ครามาริช เปลี่ยนตัว มาร์ค อัลไบรท์ตัน ลงมานาทีที่ 62
  10. เลโอนาร์โด้ อูยัว เปลี่ยนตัว เดวิด นูเจ้นท์ ลงมานาทีที่ 62
  11. เจมี่ วาร์ดี้ เปลี่ยนตัว เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ลงมานาทีที่ 45


วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บาโลเตลลี่ต่างว่าคือแบบนี้ไล่เท่าไรก็คงไม่ไป ตอกอีกทั้งไงก็ไม่ยอม

ถ้าเป็นแบบนี้ไล่เท่าไรก็คงไม่ไป กดยังไงก็ไม่ลง




เพราะที่ปกติแล้ว เวลานักเตะซักคนประกาศจุดยืน แสดงความจงรักภักดีต่อสโมสรฟุตบอล ด้วยการยืนกรานว่าไม่คิดจะยักย้ายถ่ายเทไปไหน ขออยู่ประสบความสำเร็จกับหมู่แล้วล่ะก็ มันควรจะเป็นเรื่องที่น่าปลาบปลื้มยินดี ทั้งด้วยสโมสรพร้อมกับแฟนบอล

เท่าแต่ว่าส่วนใหญ่แฟนๆ มักจะช้ำใจกับการเห็นดาวเตะขวัญใจออกมาไม่ยอมรับสัญญาใหม่ที่สโมสรยื่นให้บ้างล่ะ ออกมาเปรยไม่ใช่หรือขู่ว่าจักเคลื่อนย้ายบ้างล่ะ

เพราะที่บางทีก็อาจจะปวดใจไม่แพ้กัน ถ้านักเตะที่หมายให้ยักย้ายถ่ายเทเต็มที กระหายให้โละออกไปไวๆ ดันประกาศว่าให้ตายก็ไม่ย้าย

และมาริโอ บาโลเตลลี่ นั้นคือโปรแกรมพรีเมียร์ลีกนักเตะที่น่าจะทำให้เหล่าเดอะค็อปรู้สึกแบบหลังอยู่




ซึ่งการที่ตลาดนักเตะนักเตะหน้าหนาวกำลังจะปิดลงในวันจันทร์ที่จะถึง หมายความว่าแต่ละคณะมีเวลาเหระบืออีกแค่ไม่กี่วันที่จักซื้อไม่ใช่หรือขายนักตะให้เสร็จสิ้นก่อนเส้นตาย ไม่อย่างนั้นก็ต้องรอไปจนกว่าฤดูกาลจักสิ้นสุดลง

สิ่งนั้นหมายถึงการพลาดโอกาสปรับเปลี่ยนอะไรให้ทันกาลสำหรับครึ่งที่เหโจษอยู่ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกล่าสุดฤดูกาลนี้

พร้อมทั้งเพื่อ กลุ่มลิเวอร์พูล แล้วเป้าหมายหลักในการเสริมทัพอยู่ที่การมองหาศูนย์หน้ามาแทนที่การอำลาไปของ หลุยส์ ซัวเรซ ด้วยกันการเจ็บยาวของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

การที่คาริม เบนเซม่า กับ เอเซเกล ลาเวซซี่ ที่เป็นสองดาวเตะที่มีชื่อตกเป็นข่าวกับหงส์แดงเป็นพิเศษ ภายหลังกองหน้าตัวใหม่ในช่วงซัมเมอร์อย่าง 1.ริคกี้ แลมเบิร์ต พร้อมกับ 2.บาโลเตลลี่ ทำผลงานได้ไม่ดีอย่างที่ถูกคาดหวัง




ทางด้าน แลมเบิร์ต นั้นยังพอมีข้อแก้ตัวได้ว่าไม่ถูก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เรียกใช้หรือว่าให้โอกาสมากพอ เพราะว่าถูกจับนั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ ต่างกับ บาโลเตลลี่ ที่ถูกทุ่มเงิน 16 ล้านปอนด์ ซื้อมาเสริมเหล่าฟุตบอลหลังเปิดฤดูกาลไปแล้ว เพราะว่าหวังว่าจะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในแนวรุกให้กับทีม

ด้วยกันบาโลเตลลี่ กลายเป็นตัวเร่ำลือกในแนวรุกอันดับแรกไปในทันที หลังจาก สเตอร์ริดจ์ เจ็บไปตั้งแต่นัดที่ 3 ของฤดูกาล ซึ่งเป็นเกมเดียวที่ทั้งคู่ได้ลงเล่นร่วมกันจนถึงโอกาสนี้

แต่ว่าภายหลังที่ได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง บาโลเตลลี่ ก็ยังเบิกสกอร์แรกในพรีเมียร์ลีกในสีเสื้อของลิเวอร์พูลไม่ได้ จนสุดท้ายร็อดเจอร์สก็ไม่ดันทุรังอีกต่อจากนั้น ด้วยการปลด เกรียนโอ้ ออกไปเป็นสำรองในที่สุด

เพราะที่วิเคราะห์บอลการหลุดทีมไปของเขาส่วนหนึ่งมาจากปัญหาสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ พร้อมทั้งมีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง รวมถึงแผนการเล่นใหม่ที่ให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง มายืนป็นเบอร์ 9 หลอกแทนดูจักได้ผลดี จนทำให้ผลงานของหงส์แดงในช่วงหลังกระเตื้องขึ้นมา




สิ่งนั้นย่อมหมายความว่าโอกาสที่จักลงเล่นในตารางบอลของบาโลเตลลี่คงจะลดน้อยลงไปอีก เพราะว่าเฉพาะปางสเตอร์ริดจ์พร้อมจักคัมแบ็กแล้ว

พร้อมด้วยทางบาโลเตลลี่ ได้ลงเล่นในไฮไลท์พรีเมียร์ลีกเกมล่าสุดด้วยการเป็นตัวสำรองในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ของลีกคัพรอบตัดเชือกนัดที่สอง กับ เชลซี ตราบใดวันอังคาร ซึ่งบทบาทของเขายังคงเป็นการไม่มีบทบาทใดๆในการช่วยเหล่าเหมือนเคย

แถมก็ยังมีส่วนทำให้ทีมเสียฟรีคิกจนนำไปสู่ประตูชัยของ หมู่เชลซี ในเกมนี้ด้วย จากการจ่ายบอลพลาดจนเพื่อนต้องไปตัดฟาวล์

โดยที่ฟอร์มของบาโลเตลลี่ในนัดนี้ยิ่งทำให้กระแสข่าวที่ว่าเขาจักถูกหงส์แดงโละทิ้งมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น แม้เจ้าตัวจักเคยออกมาบอกเล่าว่าพร้อมจักสู้เพื่อตำแหน่งพร้อมด้วยพิสูจน์ตัวเองถัดไปก็ตาม

ช่วงเวลาล่าสุด มิโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ของบาโลเตลลี่ ออกมาตอกย้ำถ้อยคำที่บาดหัวใจเหล่าเดอะค็อปหนักขึ้นไปอีก พออื้นว่าเขาได้กราบทูลเกรียนโอ้ไปแล้วว่าให้ลืมเรื่องขนย้ายกลุ่มไปได้เลย ก็เพราะว่ามีหนังสือสัญญาอยู่ตั้ง 4 ปี ให้นั่งรับค่าจ้างก้อนโตสบายๆ




และในส่วนโปรแกรมบอลมุมของเอเยนต์แล้ว ปกติจักชอบยุให้นักเตะเคลื่อน เพราะว่าตัวเองจะได้กินเปอร์เซ็นต์จากการซื้อขาย แต่ถ้าขายในช่วงที่ราคาตก ก็หมายความว่าส่วนแบ่งตรงนั้นจะลดน้อยลงไปด้วย

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เอเยนต์ชื่อดังชาวอิตาเลียนรายนี้ จักยื่นคำขาดไปว่าจักไม่เจรจากับทีมไหนทั้งนั้นในช่วงนี้ ถ้าจักพูดเรื่องย้ายก็ต้องรอให้บาโลเตลลี่ทำผลงานให้ดีก่อน จนค่าจ้างพุ่งไปซัก 45-50 ล้านปอนด์ ตอนนั้นค่อยมาว่ากัน

พร้อมด้วยถ้าเกรียนโอ้ทำแบบนั้นไม่ได้ล่ะ? เอเยนต์ผู้ปรารถนาดีแนะนำนิ่มๆ ว่าก็อยู่ไปเรื่อยๆ ให้มันแห้งตายคาแอนฟิลด์นี่แหละ ให้มันรู้กันไปว่า ถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่เลื่อน ถึงไล่ก็ไม่เลิก

ถ้าหากได้ฟังแบบนี้แล้ว ทีมลิเวอร์พูล คงต้องคิดหนักว่าควรจักให้ บาโลเตลลี่ ลงมาเล่นไม่ก็เปล่า? เผื่อจับพลัดจับผลูเล่นดีขึ้นมา จักได้รีบหาหมู่มารับเซ้งได้ง่ายขึ้น เหรอจะเก็บไว้เป็นสีสันด้วยกันความบันเทิงให้กับแฟนๆ ต่อไปดี

Babybear

ที่มา: http://event.sanook.com/football

วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การรบบอลคิงส์ คัพ ในที่ความจำ +คลิป

ศึกคิงส์ คัพ ในความทรงจำ +คลิป


ฟุตบอล


ซึ่งอีกไม่กี่วัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ ที่รู้จักกันดีในนาม ศึกคิงส์ คัพ ก็จักระเบิดศึกขึ้นที่ดินแดนย่าโม จังหวัดนครราชสีมา แล้วนะครับ

โดยที่ คิงส์ คัพ ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 43 แล้ว ย้ำอีกทีว่า 4 หมู่ที่เข้าร่วมฟาดแข้งกันประกอบไปด้วย ทัพช้างศึก

  1. ฝ่ายชาติไทย
  2. กลุ่มชาติเกาหลีใต้ ชุดปรีโอลิมปิก
  3. พวกชาติฮอนดูรัส ชุดยู20 
  4. กลุ่มชาติอุซเบกิสถาน ที่คาดว่าน่าจะเป็นชุดบี 

โดยที่ทั้ง 4 พวกจักเตะแบบพบกันหมด ซึ่งหมู่ที่มีคะแนนสูงสุดก็จักได้ถ้วยพระราชทานอันทรงเกียรติไปครองนั่นเอง

แลไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว กระแส คณะชาติไทยฟีเวอร์ ยังแรงดีไม่มีตกแบบนี้ ขอโอกาสพาท่านผู้อ่านย้อนความหลัง ถึงฟุตบอลถ้วยนี้กับครั้งที่ผ่านๆ มาบ้างดีกว่ากับ ศึกคิงส์ คัพ ในความทรงจำของแฟนบอลไทย มีอะไรบ้าง เชิญรำลึกด้วยกัน


ข้อที่ 1. ศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 25 พ.ศ 2537 ทีมชาติไทย ถล่ม กรุ๊ปชาติเยอรมัน 4 - 0!!





เพราะโปรแกรมบอลชิงถ้วยพระราชทาน ศึกคิงส์คัพครั้งที่ 25 ในปี 2537 นักเตะตัวหลักอย่าง

  1. ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
  2. ธชตวัน ศรีปาน หรือว่า ตะวัน ศรีปาน ในตอนนั้น
  3. ดุสิต เฉลิมแสน
  4. ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล 
  5. โกวิทย์ ฝอยทอง 


ซึ่งทำให้ชนะ ทีมชาติเยอรมันตะวันตก ไป 4 - 0 ในนัดชิงชนะเลิศ

แต่ว่าอย่างไรก็ดีพอได้วิเคราะห์บอลขุนพลเมืองเบียร์ทัพนี้ถือว่าไม่ใช่นักเตะกรุ๊ปชาติชุดใหญ่นะครับ เป็นฝ่ายระดับแชมป์ภูมิภาค แต่สมาคมฟุตบอลของเยอรมันส่งมาในฐานะทีมชาติเท่านั้นเอง


ข้อที่ 2. ศึกคิงส์ คัพ ในครั้งที่ 31 พุทธศักราช 2543 ทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ ถลุง หมู่ชาติไทย 7 - 0 !





เพราะว่าที่นัดพระราชประวัติศาสตร์ที่ควรจดจำอย่างแท้ครัน ตราบใด เหล่าแชมป์โลก อย่าง หมู่ชาติบราซิล ได้จัดเต็มชุดใหญ่ ไล่ถล่ม ทีมชาติไทย 7-0 จากการทำประตูของ

  • 1.ริวัลโด้ ยิงไปในนาทีที่ 12 ด้วยกันนาทีที่ 40
  • 2.โรนัลดินโญ่ ยิงไปในนาทีที่ 40
  • 3.เอเมอร์สัน ยิงไปในนาทีที่ 49 พร้อมด้วยนาทีที่ 85
  • 4.โรเก้ จูเนียร์ ยิงไปในนาทีที่ 73
  • 5.มาริโอ ยาร์เดล ยิงไปในนาทีที่ 80


ด้วยกันนอกจากรายนามนักเตะระดับโลกที่ทำประตูเหล่านี้แล้ว ยังจะมี

  1. โจวานนี่ เอลแบร์
  2. คาฟู
  3. โรแบร์โต้ คาร์ลอส
  4. จูนินโญ่ เปอร์มันบูร์กาโน่
  5. เซ โรเแบร์โต้ ฯลฯ ที่ได้ลงสนามอีกด้วย



ข้อที่ 3. ศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 28 พุทธศักราช 2540 ลูกไขว้บรรฟุ้งเฟื่องโลกของ เดอะ ตุ๊ก





พร้อมด้วยอีกหนึ่งลูกยิงในตำนาน ศึกคิงส์ คัพ นั่นก็คือ ลูกไขว้ยิงประตูด้วยซ้ายของ เพชฌฆาตหน้าหยก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ซึ่งได้ไขว้เท้าซ้ายซัด กรุ๊ปชาติโรมาเนีย ชุดเล็ก จากการเปิดของ เสนาะ โล่งสว่าง ทางกราบขวาของกรอบเขตโทษ ให้ไทยชนะไป 1 - 0 แม้ว่าขณะนั้น เดอะ ตุ๊ก จักมีอายุถึง 38 ปีแล้วก็ตาม


ข้อที่ 4. ศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 14 พุทธศักราช 2524 ขยี้โสมแดงสุดมันส์.




ภายหลังที่ตารางบอลพวกชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติเกาหลีเหนือผลบอล 2 - 1 ในนัดชิงชนะเลิศ ชนิดสนามศุภชลาศัยแตก ตอนนั้น เกาหลีเหนือ เป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในทัวร์นาเมนต์ พร้อมกับขึ้นนำ ไทย ไปก่อน 1-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก ซึ่งมองมุมไหน ทีมไทยก็ไม่มีโอกาสเอาชนะได้เลย

แต่ซ๋ษเด็กหนุ่ม กองหน้าตัวใหม่ของคณะชาติไทย ที่มีนามว่า ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ได้ยิงตีเสมอให้กับฝ่ายชาติไทยได้ 1 - 1 ในช่วงท้ายของเกม จนต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีกครึ่งละ 15 นาที พร้อมทั้งเป็นกัปตันหมู่ เกาหลีเหนือ ที่ทำเกิดแฮนด์บอลในเขตโทษ

ทำให้แฟนบอลรอบๆ สนาม ที่เต็มลู่วิ่ง ต่างวิ่งลงไปสวมกอดนักเตะกลุ่มชาติไทยทันที แฟนบอลเกือบแสนคนในสนามศุภฯต่างดีใจว่าเหล่าได้แชมป์แล้ว ทั้งที่ยังไม่มีการยิงจุดโทษเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่ เดอะ ตุ๊ก จะได้รับหน้าที่สังหารเข้าไป กับกลายเป็นซุปตาร์ของวงการฟุตบอลไทยชั่วข้ามคืน


ข้อที่ 5. ศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 27 - 29 ช่วง สนามแตก ของฟุตบอลพวกชาติไทย





ก็ไม่มีอะไรมาก วิเคราะห์ผลบอลตามคลิปเลยครับ บรรยากาศสุดยอด ถึงแม้จะดูไม่น่าปลอดภัยนักก็ตาม ฮ่าๆๆ





วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บอล: ผู้ฝึกสอนร็อดเจอร์สปักหมุด?

โค้ชร็อดเจอร์สปักหมุด?






หลังจากที่เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ หมู่ลิเวอร์พูลในศึกโปรแกรมพรีเมียร์ลีก ให้สัมภาษณ์วิเคราะห์บอลเอาไว้หลังเกมเจ๊า ฝ่ายโบลตัน คืนวันเสาร์ที่ทะลุทะลวงมาว่า แดเนียล สเตอร์ริดจ์ จักลงซ้อมแบบเต็มที่กับหมู่ ภายหลังนั้นจักเช็คดูว่าพร้อมหรือมีโอกาสแค่ไหนในเกมเจอ ทีมเชลซีวันนี้

กับถ้ายังไม่พร้อมก็จักใช้งานในเกมสุดสัปดาห์กับ กลุ่มเวสต์แฮม ก็จะให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำหน้าที่ตรงนั้นไปก่อนเช่นเดิม

เรียกได้ว่า เป็นการตัดเยื่อใยกับ มาริโอ บาโลเตลลี่ แบบชัดเจนอีกครั้ง กุนซือหงส์แดงเห็นว่าพวกได้ประโยชน์จาก บาโลเตลลี่ น้อยมาก เป็นแบบนี้ไม่รู้จักส่งลงเล่นทำไม

เนื่องด้วยโครงสร้างของคณะที่พยายามปรับเปลี่ยนกันมาหลังจากเจอปัญหาใหญ่ยาวเหยียดเกือบ 4 เดือน ไม่มี มาริโอ บาโลเตลลี่ เป็นชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งของโครงสร้างดังกล่าว




กับภายหลังเกมที่พ่ายให้กับ กรุ๊ปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หงส์แดงมีผลงานที่ขยับขึ้นมาน่าพอใจในระดับหนึ่ง เกมรับที่เละเทะพลาดกันแบบง่ายๆ โหมโรงไม่ค่อยมีให้เห็นกันมากนัก

สำหรับความพยายามในการแก้ไขปัญหาตรงนี้แบบเร่งด่วนผลออกมาน่าพอใจ ประเด็นต่อจากนั้นก็คือกองหน้า ดูเหมือน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ปักหมุดชัดเจนแล้วว่าความคาดหวังกับเกมที่เหเลื่องอยู่ทั้งหมดในฤดูกาลนี้อยู่ที่ แดเนียล สเตอร์ริดจ์

เท่ากับว่าเป็นการปิดมู่ลี่การมีส่วนร่วมของ บาโลเตลลี่ แบบสิ้นเชิง เป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่ บาโลเตลลี่ จะปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นให้เหมาะกับสิ่งที่ ร็อดเจอร์ส ต้องการ

ซึ่งกองหน้าต้องเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ปราดเปรียวในการขยับไปตามช่องที่เปิด นอกจากนี้ต้องเป็นนักเตะที่มีความก้าวร้าวดุดันพร้อมทั้งทุ่มเท คือมีเกมเพรสซิ่งทันทีที่เสียบอลเพื่อชะลอเกมของคู่แข่งเหรอแย่งบอลกลับมาลุยต่ออีกครั้ง




ซึ่งบาโลเตลลี่ นั้นไม่มีเรื่องราวที่ว่ามา การจ่ายบอลต้องให้ไปที่ตัว การเคลื่อนที่ยังไม่จี๊ดจ๊าดมากพอ นอกจากนี้จังหวะเสียบอลของ บาโลเตลลี่ ง่ายเกินไปโดนเบียดนิดเบียดหน่อยเรียบร้อยคู่แข่งทันที ในขณะที่จังหวะต่อเนื่องไม่มีการเพรสซิ่งแบบทันทีทันควัน เพราะว่ามัวแต่นั่งกุมข้อเท้าหรือไม่ก็อะไรคาดว่านั้นต่อเนื่องด้วยการแสดงท่าทางหัวเสียหรือบ่นผู้ตัดสิน ซึ่งวินาทีนั้นบอลไปไหนต่อไหนแล้ว

เรื่องของปรับตัวให้เข้ากับโครงสร้างกับจังหวะการเล่นของทีมจึงเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสอย่างยิ่งเหมือนกับการเปลี่ยนสไตล์การเล่น เป็นไปได้ยากครับ

โค้ชร็อดเจอร์ส เริ่มทำต้นด้วยการให้โอกาสเต็มที่ ทว่า บาโลเตลลี่ ไม่ศักยฉแกฉวยเอาไว้ได้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ เจ็บยาวแต่ยังเป็นที่คาดหวัง ในขณะที่ตัวที่มีโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รอบรู้เข้าไปอยู่ในแผนการเล่น เป็นแบบนั้นมันเกินไปแล้ว

เพราะเกมเจ๊ากับ เหล่าโบลตัน เกรียนโอ้ ไม่มีแม้แต่ชื่อตัวสำรอง ไม่มีอาการบาดเจ็บแบบต้องดูแลกันเป็นพิเศษ ข่าวแค่ชี้ว่าเป็นไข้ ซึ่งใครคนไหนที่โดนดรอปออกไปจากพวกมักจะมีเหตุผลนี้มารองรับเป็นพื้นฐาน

ซึ่งกรุ๊ปลิเวอร์พูล เล่นได้ดีพอที่จะเอาชนะ โบลตัน ได้ แต่ปัญหาคือไม่มีกองหน้าอาชีพที่เฉียบคมมากพอมาใช้งาน การจัดตัวเพื่อดวลกับเชลซีต่างว่า สเตอร์ริดจ์ ไม่พร้อมก็จักออกมาในรูปแบบนี้อีกครั้ง




โค้ชร็อดเจอร์ส นั้นพยายามหลีกเลี่ยงการเฟุ้งเฟื่องก บาโลเตลลี่ ลงเล่นเป็นหัวหอก ฟังจากคำให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่า เดิมพันอนาคตในฤดูกาลนี้ที่เหโจษจันอยู่ขึ้นกับ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ เป็นสำคัญ

ในด้านสภาพพร้อมพร้อมส่งลงเล่นแบบยาวๆ ที่เหระบืออีก 2-3 คนนั่งดูกันไป วันไหนๆไม่มี สเตอร์ริดจ์ ใช้งาน สเตอร์ลิ่ง แทน

กลุ่มหงส์แดงยังคงมีเกมสำคัญต่อเนื่องในช่วงนี้ ทั้งการเยือน เชลซี ทั้งรีเพลย์แมตช์กับ ฝ่ายโบลตัน เกมยูโรป้าก็ใกล้กลับมาอีกครั้ง รวมไปถึงพรีเมียร์ลีก เป้าหมายท็อปโฟร์ยังคงปักธงกันไว้เช่นเดิม

ซึ่งร็อดเจอร์ส ได้อธิบายว่า 6 - 7 นัดที่ผ่านมากลุ่มพยายามปรับโครงสร้างกันใหม่ เพื่อให้เกมเพรสซิ่งกลับมาอีกครั้ง รวมไปถึงการสร้างสรรค์โอกาสที่สมรรถทำได้มากขึ้น





แต่สมมุติตารางบอลนักเตะคนไหนไม่ทำได้เข้ากับวิธีการเหรอโครงสร้างที่วางไว้ เป็นเรื่องยากที่จักเข้ามามีส่วนร่วมกับหมู่ ร็อดเจอร์ส เข้าสู่โหมดวางมือจาก บาโลเตลลี่ เช่นเดียวกับที่ โค้ชโจเซ่ , โค้ชมูรินโญ่, โค้ชโรแบร์โต้ มันชินี่ และ โค้ชอันโตนิโอ คอนเต้ ทำมาก่อนแล้ว

พร้อมทั้งสมมติจะบอกว่าเป็นลางไม่ดีของ มาริโอ บาโลเตลลี่ ก็คงไม่ใช่ เอาเป็นว่าเสนอกันชัดๆกับตรงๆกันเลยทีเดียว กุนซือหงส์แดงกำลังต้องการความช่วยเหฟุ้งเฟื่องทั้งหมดทั้งมวลจากลูกฝ่าย เพราะเฉพาะแดนหน้า แต่ไม่ต้องการความช่วยเหโจษจาก มาริโอ บาโลเตลลี่

ในด้านของกฏแฟร์เพลย์ทางด้านการเงิน เป็นขวากหนามอย่างหนึ่ง ทำให้ขยับตัวไม่ค่อยจักได้ นั่นทำให้การปักหมุดพร้อมด้วยการเดิมพันในแดนหน้าของ ร็อดเจอร์ส พุ่งเป้าไปที่ สเตอร์ริดจ์

ถึงแม้จักสุ่มเสี่ยงมากขนาดไหนกับสถานการณ์ที่เชื่อมั่นในกองหน้าเช่นคนเดียวของคณะ ดูเหมือนจักมีการเฟุ้งเฟื่องกแล้วว่ามาเส้นทางนี้

ในนาทีนี้โปรแกรมบอล มาริโอ บาโลเตลลี่ ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของพวก แต่เป็นส่วนเกินของกลุ่ม เกมไปเยือนเชลซีวันนี่พิสูจน์ร่วมกันว่านักไม่ใช่หรือเปล่า

ดามัน

ที่มา: http://footballclubpza.blogspot.com/