แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เชลซี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เชลซี แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

ห่วยแท้กว่าพ่ายแพ้!

แย่ยิ่งกว่าปราชัย!


ฟุตบอล


วิเคราะห์บอล: เพราะความพ่ายพ่าย เหรอ การต้องตกรอบตารางบอลในการแข่งขันกีฬานั้น ถือเป็นสิ่งที่เจ็บปวดและน่าผิดหวังเสมอเหตุด้วยทุกคนที่เกี่ยวข้อง ด้วยกันถ้าจะมีอะไรที่แย่ไปกว่านั้น ก็คงเป็นการแพ้เพราะที่ทุกคนเบ้ปากใส่แล้วเล่าว่าสมควรแล้ว

ด้วยกันสถานการณ์ของ เหล่าเชลซี หลังจบจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับ ฝ่ายปารีส แซงต์-แชร์กแมง คราวคืนวันพุธ น่าจักใกล้เคียงกับที่จั่วหัวเอาไว้

เพราะว่านอกจากจักตกรอบไปอย่างชอกช้ำ จากการทำได้แค่ผลบอลเสมอ 2-2 ในบ้านตัวเอง หลังที่มีผู้เล่นมากกว่าถึงสองในสามของเวลาที่เตะกันแล้ว

ทีมสิงโตสีคราม ยังถูกวิจารณ์ อย่างหนักจากการแสดงออกของนักเตะในสนาม ในจังหวะการฟาวล์ต่อออสการ์ที่ทำให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวเตะคนสำคัญของคู่แข่ง โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

และแน่นอนว่าการตัดสินของ บียอร์น คีเปอร์ส กรรมการชาวดัตช์ ที่คิดว่าจังหวะนี้ควรเป็นใบแดง ถือเป็นวิจารณญาณของเขาเองด้วยที่โดนจวกหนักไม่พ่ายแพ้กัน แต่หลายคนก็มองว่าการแสดงออกของนักเตะ ฝ่ายเชลซี ที่เข้าไปห้อมล้อมและโหวกเหวกโวยวายเกินจำเป็นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย


วิเคราะห์บอล


ซึ่งบรรดาเกจิในแวดวงลูกหนัง ทั้งอดีตนักเตะกับผู้จัดการกลุ่มชื่อดังหลายคน ต่างก็มองไปในทางเดียวกันว่ากองหน้าของ ทีมเปแอสเชโชคร้ายที่โดนใบแดง กับพฤติกรรมของนักเตะ กรุ๊ปเชลซี เป็นสิ่งที่น่าอัปยศอดสู

เพราะที่ อลัน กรีน คอมเมนเตเตอร์ของ BBC วิเคราะห์ผลบอลพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า มันแย่มากที่ได้เห็นนักเตะมากมายหลายคนแสดงพฤติกรรมแบบนั้นในสนาม ผมจักไม่ปกป้องพวกไร้สมองที่ทำตัวน่าขายหน้าแบบนี้แน่

ซึ่ง แกรม ซูเนสส์ อดีตนักเตะด้วยกันผู้จัดการพวกชื่อดัง ได้ออกมา วิจารณ์ออสการ์ที่เจตนาเรียกใบแดงให้คู่แข่งในจังหวะที่โดนทำฟาวล์ด้วย

เรียกได้ว่ามันเป็นสิ่งที่เราไม่จำเป็นต้องทำเลย มันรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง การที่นักเตะพยายามล้มเพื่อให้คู่แข่งโดนไล่ออก

พร้อมด้วยมันไม่ใช่วิถีของอังกฤษ มันกำลังคืบคลานเข้าสู่เกมของเรา ซึ่งผมรู้สึกว่ารับไม่ได้แน่ๆๆ

ด้วยกันแม้เวลามีใครเข้าสกัดคุณ คุณมักจะทะเยอทะยานล้มลงไปเพื่อให้เขาโดนเล่นงาน มันน่าสมเพชแบบนี้แหละ ขอบคุณสวรรค์ที่เปแอสเชไม่ยอมปราชัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขากลับไปพร้อมกับเครดิตที่สมควรได้รับ พวกเขาเป็นกลุ่มที่ดีกว่า

ทางด้านเจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ทีมลิเวอร์พูล ได้วิจารณ์ไปถึงโจเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการฝ่ายเชลซี ว่าเป็นคนปลูกฝังทัศนคติแบบนี้ให้กับนักเตะ


โปรแกรมบอล


ซึ่งการแสดงออกของนักเตะ ทีมเชลซีเป็นเรื่องที่น่าอดสู มันมาจากทุกฝ่ายของโจเซ่ มูรินโญ่ กรุ๊ปของเขามักจักทำพฤติกรรมแบบนี้เสมอ มันไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว

กับในบางทีสิ่งที่เขาพูดไว้ก่อนเกมว่าเปแอสเชเป็นทีมที่เล่นสกปรกที่สุด อาจจักถูกฝังไว้ในหัวของกรรมการไปแล้ว

ส่วนตัว ผมคิดเสมอว่าทีมของมูรินโญ่อาจจะได้รับการยอมรับในฝีเท้า แต่ฝ่ายของเขาจักไม่มีทางเป็นกรุ๊ปที่คนรัก เพราะสถานการณ์แบบนี้นี่แหละ ทีมของเขาเอาคำว่าชนะไปอยู่ตรงจุดที่เหล่าอื่นหรือไม่ผู้จัดการกลุ่มคนอื่นทำไม่ได้ คำพูดของเขามีอิทธิพลไปแล้ว

ในขณะที่ ไมเคิล โอเว่น อดีตดาวยิงชื่อดัง ก็มีความเห็นไปในทางเดียวกัน ด้วยกันมองว่าจังหวะนี้ไม่ควรเป็นใบแดง

แม้เป็นจังหวะนี้ ต้องไม่ใช่ใบแดงแน่นอน พฤติกรรมของนักเตะเชลซีน่าช็อกสุดๆ การทำอะไรแบบนี้มีอิทธิพลต่อเกมได้ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาทำ

เพราะว่าที่ผมดีใจที่เห็นคาร์ราเกอร์พร้อมกับซูเนสส์คิดตรงกับผมเป๊ะ เกมฟุตบอลคงกลายเป็นเรื่องตลกไปเลย ถ้านักเตะขึ้นต้นมีอิทธิพลต่อเกมด้วยการเข้าไปกดดันกรรมการ

พร้อมด้วยมาร์ค ลอว์เรนสัน ที่เป็นอดีตกองหลัง กลุ่มลิเวอร์พูล ซึ่งผันตัวไปทำงานด้านสื่อมานาน ก็ร่วมแสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของนักเตะ กลุ่มเชลซีเช่นกัน

สำหรับการแสดงออกของนักเตะ พวกเชลซีนั้นเหเล่าลือเชื่อมาก ถ้าดูจากการที่การทำฟาวล์จังหวะนี้ไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดนั้นเลย ผมเกือบจักคิดว่าเขาทำคู่แข่งขาหักซะอีก ออสการ์สมควรได้รับออสการ์เลย

ด้วยกันสิ่งที่เกิดขึ้นฉุดให้เกมฟุตบอลถอยหลังเข้าคลอง พฤติกรรมโอเวอร์เกินเหตุต่อการทำฟาวล์ของคู่แข่ง เกมฟุตบอลกำลังจะกลายเป็นละครเข้าไปทุกทีแล้ว

A ในส่วนของ เกรแฮม โพลล์ อดีตผู้ตัดสินชื่อดังของอังกฤษ ก็มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสนธิสัญญาณอันตรายของเกมฟุตบอล


พรีเมียร์ลีก


ซึ่งพฤติกรรมของนักเตะ พวกเชลซี ตอนที่เข้าไปรุมล้อม บียอร์น คีเปอร์ส เป็นความอัปยศอย่างแท้สุทธิ และมันเป็นหนังสือสัญญาณที่หมายว่าเกมฟุตบอลในปัจจุบันกลายเป็นแบบไหนไปแล้ว

ส่วนทางด้าน จอห์น อัลดริดจ์ อดีตศูนย์หน้า ทีมลิเวอร์พูล อีกคน ออกมาตำหนิวิธีการเล่นของมูรินโญ่ที่ไม่เน้นเกมบุกมากพอ

ฝ่ายเชลซีได้ในสิ่งที่สมควรได้รับแล้ว วิธีการเล่นของพวกเขาสะท้อนตัวตนผู้จัดการกลุ่มของพวกเขาออกมา การเล่นเกมรับในบ้านน้อยครั้งที่จักเวิร์ก

ด้วยกัน โลร็องต์ บล็องก์ โค้ชของ กรุ๊ปปารีส ย้ำว่ากรุ๊ปของเขาสมควรได้ตัดผ่านเข้ารอบ 8 ฝ่ายสุดท้ายอย่างแท้แน่แท้ ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ปัญหาเกิดขึ้นในเกมนี้เหรอไม่ก็ตาม

ซึ่งต่อให้คุณตัดการแสดงออกอย่างไม่มีน้ำใจนักกีฬาพวกนั้นออกไปจากเกม ผมก็คิดว่าหมู่ของผมดีกว่าเชลซีในทุกจุดของสนาม เปแอสเชสมควรเข้ารอบแล้ว

ในขณะที่อิราฮิโมวิชเองได้เหน็บแนมพฤติกรรมของคู่แข่งเบาๆ ว่าทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต

หลังจากที่ผมเห็นกรรมการควักใบแดงออกมา ผมนี่แบบว่า เขารู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่นี่ยังไม่ใช่ส่วนที่แย่ที่สุดนะ ที่แย่ที่สุดก็คือในจังหวะนั้น นักเตะ ฝ่ายเชลซี ทุกคนกรูกันเข้ามารุมล้อมเต็มไปหมด ผมรู้สึกเหมือนโดนเหล่าเด็กน้อยมากลุ้มรุมอยู่รอบตัวเลย

เรื่องโดย : Bebybear

ที่มา: http://event.sanook.com/football

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ข่าวฟุตบอล: การรบบอลพรีเมียร์ลีกนัดที่ 23 ปี 2558

ฟุตบอล: เรือบุกเจ๊าสิงห์บลูส์1-1ตามหลัง5แต้มเท่าเดิม



  • การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2014-2015 นัดที่ 23
  • การแข่งวันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2558
  • กรุ๊ปเชลซี 1 - 1 กลุ่มแมนเชสเตอร์ ซิตี้
  • แข่งที่สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
  • กรรมการผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก


วิเคราะห์ผลบอล: ในนาทีที่ 7 หมู่แมนฯซิตี้ ได้ลุ้นประตูจาก แฟร์นันดินโญ่ หลุดเข้าเขตโทษทางด้านขวาก่อนจะยิงหลุดกรอบออกหลังไป

เพราะนาทีที่ 24 พวกเยือนมีโอกาสจาก เซร์คิโอ อกูเอโร่ กระซากบอลหนี เคิร์ต ซูม่า ก่อนยิงไปโดน ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดบอลออกไปได้

ต่อมานาทีที่ 33 ฝ่ายเรือใบ เล่นเกมสวนกลับเร็วพร้อมทั้ง จอห์น เทอร์รี่ สกัดบอลพลาด ทำให้ เซร์คิโอ อกูเอโร่ หลุดไปดวล ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก่อนยิงหลุดเสาออกหลังนิดเดียว

ซึ่งนาทีที่ 42 เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำเมื่อ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช โยนบอลไปให้ เอแด็น ฮาซาร์ด ปาดเร็วจากด้านซ้ายมาหน้าประตู โลอิก เรมี่ เข้าชาร์จไม่พลาด 1 - 0

พร้อมทั้งนาทีที่ 45 หมู่เยือนตามตีเสมอทันควันทันทีที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ตัดบอลพลาดจนเข้าทาง เซร์คิโอ อกูเอโร่ ยิงอัดเข้ามาแล้ว ดาบิด ซิลบา ล้มตัวจิ้มเข้าไปเป็น 1 - 1

ต่อมานาทีที่ 55 กรุ๊ปแมนฯซิตี้ มีลุ้นจากการโหม่งของ แฟร์นันดินโญ่ ก่อนที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ จักกระโดดปัดบอลออกหลังไป

ในช่วงท้ายเกมคณะเยือนบุกหนักหวังยิงประตูขึ้นนำให้ได้ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จจนจบเกม 90 นาทีเสมอกันไป 1 - 1 แบ่งกลุ่มละแต้ม ทำให้ช่องว่างยังห่างกัน 5 คะแนนเท่าเดิม


มาดูรายชื่อผู้เล่นทั้งสองกรุ๊ป


กลุ่มเชลซี : ระบบ 4-2-3-1
  • ตำแหน่งผู้รักษาประตู : 1.ติโบต์ กูร์กตัวส์
  • ตำแหน่งกองหลัง : 2.บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, 3.เคิร์ต ซูม่า, 4.จอห์น เทอร์รี่, 5.เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า
  • ตำแหน่งกองกลาง : 6.รามิเรส, 7.เนมันย่า มาติช – 8.วิลเลี่ยน, 9.ออสการ์, 10.เอแด็น ฮาซาร์ด
  • ตำแหน่งกองหน้า : 11.โลอิก เรมี่

คณะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ระบบ 4-2-3-1
  • ตำแหน่งผู้รักษาประตู : 1.โจ ฮาร์ท
  • ตำแหน่งกองหลัง : 2.บาการี่ ซานญ่า, 3.แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, 4.มาร์ติน เดมิเคลิส, 5.กาแอล กลิชี่
  • ตำแหน่งกองกลาง : 6.แฟร์นันดินโญ่, 7.แฟร์นันโด – 8.เฆซุส นาบาส, 9.ดาบิด ซิลบา, 10.เจมส์ มิลเนอร์
  • ตำแหน่งกองหน้า : 11.เซร์คิโอ อกูเอโร่

เป็นการถอนแค้นได้สำเร็จ! ผีแดงเปิดรังฝังจิ้งจอก 3 - 1 ขึ้นรั้งที่ 3





  • การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
  • แข่งวันเสาร์ที่ 31 มกราคม ปี 2558
  • ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 - 1 ทีมเลสเตอร์ ซิตี้
  • แข่งที่สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
  • กรรมการผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน

ภายหลังที่โหมโรงเกมครึ่งแรก เจ้าถิ่น หมู่แมนฯยูฯ ได้ลุ้นก่อน ในนาทีที่ 13 จากจังหวะปั่นนอกกรอบโทษของ อังเคล ดิ มาเรีย แต่บอลไปติดกำแพง

ต่อมานาทีที่ 22 เวย์น รูนี่ย์ จ่ายบอลคืนหลังพลาด เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ฉกบอลไปได้แต่โดนเบียด ทำให้จังหวะยิงทำได้ไม่ดีพอบอลข้ามคานออกไป

และถัดมาอีก 1 นาทีเจ้าถิ่น ได้โต้กลับ อังเคล ดิ มาเรีย ให้ ลุค ชอว์ พาบอลขึ้นไป ก่อนเปิดเข้ากลางให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้แปเน้นๆ แต่หลุดออกไป

ในนาทีที่ 26 จากความผิดพลาดของแนวรับเลสเตอร์ ทำให้ ดาเล่ย์ บลินด์ ตัดบอลได้ ก่อนโยนขึ้นหน้าให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยิงด้วยขวาทันที บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เจ้าถิ่น แมนฯยูฯ ออกนำ 1 - 0

นาทีที่ 31 กรุ๊ปแมนฯ ยูฯ ได้ขยับหนีห่างเป็น 2 - 0 ปาง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เก็บบอลได้ ก่อนแทงทะลุช่องให้ อังเคล ดิ มาเรีย พาบอลขึ้นกราบซ้าย ก่อนยิงมุมแคบ มาร์ค ชวาร์เซอร์ รับไม่ติดมือ ก่อนเป็น ราดาเมล ฟัลเกา ที่วิ่งตัดเข้ามาซ้ำจ่อๆ เข้าไป

นาทีที่ 43 ฝ่ายแมนฯยูฯ มาได้ประตูสาม จากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย เวย์น รูนี่ย์ เปิดเข้ากรอบโทษ ก่อนที่ ดาเล่ย์ บลินด์ จะวิ่งฉีกหนีตัวประกบออกมาโขกที่เสาแรก ด้วยกันเป็น เวส มอร์แกน ที่โหม่งสกัดพลาดเข้าประตูตัวเองไป

ทำให้จบครึ่งแรก กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำ เหล่าเลสเตอร์ ห่างถึง 3 - 0

ตั้งต้นเกมส์มาในครึ่งหลังผ่านไป 5 นาที เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูเพิ่มอีก อัดนาน ยานาไซ พาบอลขึ้นทางซ้าย ก่อนปาดเข้ากลาง ราดาเมล ฟัลเกา แหย่ไม่ถึงบอล ทำให้เข้ามือ มาร์ค ชวาร์เซอร์

นาทีที่ 56 อัดนาน ยานาไซ มีโอกาสลองส่องไกล แต่บอลลอยโด่งข้ามคานออกไป

นาทีที่ 60 เลโอนาร์โด้ อูยัว หลุดเดี่ยวเข้าไปโดยมี มาร์กอส โรโฮ วิ่งตามประกบไปด้วย แล้วล็อคเข้าในก่อนล้มลงในกรอบเขตโทษ กรรมการชี้ว่า อูยัว ล้มลงเอง แมนฯยูฯรอดตัวไป

นาทีที่ 79 คณะเลสเตอร์ มาตีไข่แตกได้สำเร็จไล่มา 1 - 3 เท่าที่ มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปิดไปเสาสอง ฟิล โจนส์ ขึ้นโหม่งไม่ถึง บอลเลยมาถึง มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ พุ่งโขกบอลเข้าไปเต็มๆ ถึงแม้จะโดนเท้า ดาบิด เด เกอา ก็ตาม

ทำให้จบเกม พวกปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถอนแค้นคืนสำเร็จ เปิดบ้านเอาชนะ หมู่เลสเตอร์ ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 3 - 1 เพิ่มเป็น 43 แต้ม ขยับขึ้นรั้งอันดับ 3 ชั่วคราว


ดูบัญชีชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองกลุ่ม

คณะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ระบบ  4 - 3 - 1 - 2  :
  1. ดาบิด เด เกอา 
  2. อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปลี่ยนตัว ฆวน มาต้า ลงมานาทีที่ 77
  3. ฟิล โจนส์
  4. มาร์กอส โรโฮ
  5. ลุค ชอว์ 
  6. อัดนาน ยานาไซ
  7. ดาเล่ย์ บลินด์
  8. อังเคล ดิ มาเรีย 
  9. เวย์น รูนี่ย์ 
  10. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เปลี่ยนตัว แพ็ดดี้ แม็คแนร์ ลงมานาทีที่ 69
  11. ราดาเมล ฟัลเกา เปลี่ยนตัว เจมส์ วิลสัน ลงมานาทีที่ 80

กลุ่มเลสเตอร์ ซิตี้ : ระบบ 4 - 3 - 3 :

  1. มาร์ค ชวาร์เซอร์ 
  2. แดนนี่ ซิมพ์สัน
  3. มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ 
  4. เวส มอร์แกน
  5. ริทชี่ เดอ ลาท 
  6. แดนนี่ ดริ้งวอเตอร์ 
  7. แอนดี้ คิง 
  8. เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ 
  9. อันเดรย์ ครามาริช เปลี่ยนตัว มาร์ค อัลไบรท์ตัน ลงมานาทีที่ 62
  10. เลโอนาร์โด้ อูยัว เปลี่ยนตัว เดวิด นูเจ้นท์ ลงมานาทีที่ 62
  11. เจมี่ วาร์ดี้ เปลี่ยนตัว เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ลงมานาทีที่ 45


วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

ข่าวสารบอลชุดขาวสง่าขึ้นรับรายรับสูงสุดในโลก,เฮนโด้ vs คอสต้า

หวิดมีมวย เฮนโด้ vs คอสต้า เกือบไฝว้กันหลังเกม



border=0



ล่าสุดแข้งโปรแกรมบอล กลุ่มหงส์แดง - กรุ๊ปสิงห์บลู  ได้มีเรื่องกันหลังจบเกมแคปิตอล วัน คัพ ตราบวันอังคารที่ตัดผ่าน เพราะได้มีปากเสียงกระทบกระทั่งกัน จนเกือบวางมวย ซึ่งเชื่อว่าเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ดีเอโก้ คอสต้า ที่เถียงกันมาตั้งแต่ในเกม

ภายหลังที่ เดอะ การ์เดี้ยน ที่เป็นสื่อดังแดนผู้ดีได้วิเคราะห์ผลบอลแฉ เกมจบอารมณ์ไม่จบ จนถึงนักเตะ ฝ่ายหงส์แดง ลิเวอร์พูล พร้อมกับ คณะสิงห์บลูส์ เชลซี    ซึ่งเป็น 2 หมู่ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ตกเป็นข่าวว่ามีเรื่องทะเลาะกันหลังจบเกม ศึกแคปิตอล วัน คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ณ สนามแอนฟิลด์ ที่เสมอกันไปผลบอล 1 - 1 จนกระทั่งคืนวันอังคารที่ทะลุทะลวงมา

ทั้งนี้ ได้คาดกันว่านักเตะคู่กรณีน่าจักเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งเป็นรองกัปตันพวกเจ้าบ้าน กับ ดีเอโก้ คอสต้า หัวหอกเลือเลื่องดร้อนของทีมเยือน เพราะว่าทั้งคู่มีปากเสียงกันตั้งแต่จังหวะในเกมแล้ว ซึ่งครั้งทั้งคู่เดินเข้าอุโมงค์สู่ห้องแต่งตัว ก็ยังไม่ลดราวาศอก จนถึงขั้นผลักอกเตรียมวางมวยกัน แต่ยังดีที่ถูกแยกออกจากกันก่อนจักมีการ ปลงหมัด โดยบรรดาสตาฟฟ์โค้ชและเพื่อนร่วมกรุ๊ปของทั้งคู่

เพราะว่าตารางบอลที่ชนวนขัดแย้งเริ่มต้นมาจากที่ เชส ฟาเบรกาส กองกลางตัวเก่งของ เชลซี พยายามขวางการเล่นฟรีคิกเร็วของ เฮนเดอร์สัน ก่อนที่ คอสต้า กับมิดฟิลด์หงส์แดง จะมีการโต้คารมกับผลักอกกันเล็กน้อยนั่นเอง


ในรอบ 10 ปีติด! ชุดขาวผงาดขึ้นรับรายได้สูงสุดในโลกตามคาด





คณะราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ที่เป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ในลาลีกา ซิวตำแหน่งสโมสรฟุตบอลที่ทำรายได้สูงสุดประจำปี 2015

ซึ่งตราบใดทำรายได้เข้าสโมสรได้ถึง 549.5 ล้านยูโร ซึ่งสูงที่สุดเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน ส่วนอันดับสอง ตามมาห่างๆ คือ คณะผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำเงินพุ่งจากปีที่แล้ว ขึ้นมาเป็น 518 ล้านยูโร

โดยทาง เดลอยท์ ฟุตบอล มันนี่ ลีก ไม่ใช่หรือ Deloitte Football Money League ได้แสดงตัวการจัดอันดับสโมสรที่ทำรายได้สูงที่สุดประจำปี 2015 ปรากฎว่า แชมป์ทำเงินมากสุดก็คือ พวกราชันชุดขาว เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน ครั้งทำรายได้เป็นจำนวนเงินถึง 549.5 ล้านยูโร ไม่ใช่หรือ 20,755 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน




ซึงลำดับต่อมาเป็น กรุ๊ปผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หมู่ดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่พุ่งขึ้นมาอยู่อันดับสองปีนี้ จากเดิมปีที่แล้ว 2014 อยู่ที่สี่เท่านั้น จากตัวเลขก่อนหน้า 423.8 ล้านยูโร หรือไม่ 16,000 ล้านบาท ทะยานเป็น 518 ล้านยูโร หรือว่า 19,565 ล้านบาท

ในอันดับ 3 ตกเป็นของ เหล่าเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ยอดพวกแห่งบุนเดสลีก้า เยอรมัน มีรายได้อยู่ที่ 487.5 ล้านยูโร ใช่ไหม 18,400 ล้านบาท

อันดับที่ 4 เหล่าบาร์เซโลน่า ร่วงจากที่สองปีที่แล้ว ลงมาอยู่ที่ 4 กวาดไป 484.6 ล้านยูโร หรือ 18,300 ล้านบาท

ในอันดับ 5 นั้นยังคงที่ เป็น ฝ่ายปารีส แซงต์ แชร์กแมง มีรายได้ 474.2 ล้านยูโร หรือไม่ก็ 17,900 ล้านบาท

เพราะว่าอันดับที่ 6 - 20 ประกอบไปด้วยกรุ๊ปดังมากมาย ดังนี้

  6. หมู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 346.5 ล้านปอนด์ หรือว่า 18,018 ล้านบาท
  7. เหล่าเชลซี พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 324.4 ล้านปอนด์ หรือไม่ก็ 16,868.8 ล้านบาท
  8. กลุ่มอาร์เซน่อล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 300.5 ล้านปอนด์ หรือไม่ก็ 15,626 ล้านบาท
  9. กลุ่มลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 255.8 ล้านปอนด์ เหรอ 13,301.6 ล้านบาท
10. ทีมยูเวนตุส ลีกอิตาลี - 233.6 ล้านปอนด์ เหรอ 12,147.2 ล้านบาท
11. หมู่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ลีกเยอรมัน - 218.7 ไม่ก็ 11,372.4 ล้านบาท
12. ทีมเอซี มิลาน ลีกอิตาลี - 208.8 ใช่ไหม 10,857.6 ล้านบาท
13. คณะท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 180.5 หรือว่า 9,386 ล้านบาท
14. หมู่ชาลเก้ 04 ลีกเยอรมัน - 178.9 ไม่ก็ 9,302.8 ล้านบาท
15. พวกแอตเลติโก มาดริด ลีกสเปน - 142.1 หรือว่า 7,389.2 ล้านบาท
16. ฝ่ายนาโปลี ลีกอิตาลี - 137.8 หรือว่า 7,165.6 ล้านบาท
17. คณะอินเตอร์ มิลาน ลีกอิตาลี - 137.1 หรือไม่ก็ 7,129.2 ล้านบาท
18. พวกกาลาตาซาราย ลีกตุรกี - 135.4 ใช่ไหม 7,040.8 ล้านบาท
19. ฝ่ายนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 129.7 หรือ 6,744.4 ล้านบาท
20. หมู่เอฟเวอร์ตัน พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 120.5 หรือว่า 6,266 ล้านบาท





วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ผสมข่าวโปรแกรมบอลในศึกบิ๊กแมทซ์ระหว่าง เหล่าแมนฯยู vs หมู่เชลซี

โค้ชฟานกัลไม่เป็นปลื้ม หลังผลออกมาแค่เจ๊าจ่าฝูง




โค้ช ฟาน กัล ยอมรับยังไม่ค่อยพอใจกับผลที่ออกมา ถึงแม้ว่า กลุ่มปีศาจแดง จักเก็บได้หนึ่งแต้มจาก จ่าฝูงอย่าง สิงห์บลู บ่นเสียดายน่าชนะ แม้เป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอ 1 - 1 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็ตาม

ซึ่งหลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการพวก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังอย่างที่ทำได้แค่เสมอกับ พวกเชลซี 1 - 1 แบบที่ต้องไล่ตามตีเสมอในวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ในเกมลีกนัดซูเปอร์ ซันเดย์ จนถึงวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคมที่ทะลุมา เพราะว่าเชื่อว่าคณะของเขาเป็นฝ่ายที่สมควรชนะมากกว่าเหล่าจ่าฝูง

เพราะที่ ฟาน กัล ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันว่า ผมพูดกับนักเตะแล้วว่าเราควรชนะ แต่สุดท้ายทำไม่ได้ มันเป็นความผิดของพวกเราเอง เท่าที่คุณเล่นได้ดีกับกรุ๊ปที่เป็นจ่าฝูงของลีกแบบนี้ มันถือเป็นข้อตกลงณที่ดีนะ ผมไม่ปลื้มเท่าเรา ก็เพราะว่าผมรู้สึกว่าเราน่าจักชนะในเกมนี้ แต่เราไม่ศักยฉวยโอกาสนั้นไม้ได้ พวกเราขึ้นก่อนขณะเข้าสู่ครึ่งหลัง พร้อมกับพวกเราก็ต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย ผมขอชื่นกองสนับสนุน พร้อมด้วยสปิริตของกรุ๊ปเราด้วย

และผมเชื่อว่าใบแดงของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ไม่น่าเป็นจุดเปลี่ยนของเกมนะ มันเกิดขึ้นในนาทีสุดท้าย พร้อมกับเราก็มีโอกาสเดียวจากฟรีคิกนั้น ครันอยู่ที่เรามาได้ประตูจากจังหวะนี้ แต่ผมไม่รู้ว่า อิวาโนวิช มีหน้าที่ประกบ มารูยาน เฟลไลนี่ หรือไม่เปล่า คุณต้องไปถาม โชเซ่ มูรินโญ่ เอาเองแล้วล่ะ หลังจากที่เชลซี นำก่อนจากนั้นเราเจอกับงานที่ยากมากๆ ก็เพราะว่าพวกเขาเน้นครองบอลแล้ว สนามมันก็ใหญ่เหฟุ้งเฟื่องเกิน เราทำได้แค่วิ่งไล่บอลถัดจากนั้น

แต่ว่าพวกเราก็สู้จนสุดใจ พร้อมทั้งผมคิดว่าพวกเราสมควรได้รับผลตอบแทนนั้น เราน่าชนะมาก ผมพูดแบบนั้นเกือบทุกเกม แต่นี่คือ เชลซี ซึ่งเป็นยอดทีม อย่างน้อยที่สุดเราก็ได้ผลเสมอ สิ่งที่ผมพอใจมากที่สุดก็คือ เราแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่จักยิงประตู ตอนที่เราโดนนำ 1-0 มันเยี่ยมมากที่นักเตะของเราวิ่งจนนาทีสุดท้าย เพื่อผลเสมอหรือชนะไปเลย กุนซือชาวดัตช์ ร่ายยาวเหยียด

สถิติของ คณะปีศาจแดง ในครั้งนี้ เก็บได้ 13 คะแนน จาก 9 นัด รั้งอันดับที่ 8 ของตารางการแข่งขัน ส่วนโปรแกรมเกมลีกนัดไป พวกเขาจะต้องทำศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตซ์ โดยจะบุกไปเยือน พวกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายนนี้

อาแจ็กซ์อยากได้ ยานาไซมาป่วนริมเส้น




หมู่อาแจ็กซ์ สนใจที่จักกู้ยืมตัว ยานาไซ ไปเลื้อยริมเส้น หลังเห็นนักเตะต้องนั่งตบยุงอยู่ข้างสนามในทัพ ฟุตบอลคณะปีศาจแดง ในซีซั่นนี้ แต่ทาง ฟาน เดอร์ ซาร์ รับ น่าจะคว้าตัวได้ยาก เพราะสโมสรคงไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง

จนกระทั่งฝ่ายอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมส์ ที่เป็นสโมสรชั้นนำในศึกเอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ แสดงความสนใจตะกลามหยิบยืมตัว อัดนาน ยานาไซ ปีกดาวรุ่งจาก ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปร่วมทัพ หลังนักเตะรายนี้มีสถานะเป็นเพียงตัวสำรอง ภายใต้การดูแลทีม หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ กรุ๊ปปีศาจแดง

หลังจากที่ ดาวเตะในวัย 19 ปี ที่เพิ่งเป็นตัวครันให้กับ พวกปีศาจแดง ได้พาง 1 นัด จาก 6 นัดที่ได้ลงเล่นภายในลีกซีซั่นนี้ ทำให้มีข่าวแพร่งพรายออกมาว่านักเตะรายนี้ต้องการย้ายถิ่นออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อโอกาสลงสนามมากขึ้น เพราะมี ฝ่ายอาแจ็กซ์ สนใจขอยืมตัวไปร่วมทัพ กับมั่นใจว่าจักโน้มน้าวให้ กรุ๊ปแมนฯ ยูไนเต็ด ยอม วางธุระ ยานาไซ ออกมาได้ ด้วยข้อเสนอจูงใจ ที่จักช่วยพัฒนาฝีเท้าของนักเตะ

กับอย่างไรก็ดี ข่าวล่าสุดออกมาว่า เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ผู้อำนายการฝ่ายการตลาดของ อาแจ็กซ์ ซึ่งเป็นอดีตนายทวาร หมู่เร้ด เดวิลส์ ได้ออกมายอมรับแต่โดยดีว่าเป็นเรื่องยากที่จะคว้าตัว ยานาไซ มาร่วมกรุ๊ป เพราะว่าอาจจะไม่ยอมจ่ายค่าจ้างนักเตะ โดยกล่าวว่า ยานาไซ กำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อจะได้ลงเล่น แต่ผมเชื่อว่าเขาต้องดีแน่ ส่วนเรื่องที่ อาแจ็กซ์ จักทำให้เส้นทางค้าแข้งของ ยานาไซ ดีขึ้นหรือไม่ก็ไม่นะเหรอ ผมว่าต้องดีแน่ แต่กระนั้นผมกลัวว่าสโมสรเราอาจจักไม่ยอมเรื่องเงินค่าจ้างของ ยานาไซ

มาดูคะแนนความสมรรถ เกมบิ๊กแมตช์ แมนยู vs เชลซี ผลเสมอ 1 - 1




เพราะศึกลูกหนังโปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2557 ที่ทะลุมา ระหว่าง ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด กับ กลุ่มเชลซี ลงเอยด้วยผลเสมอกันแบบสนุกเร้าใจ 1-1

ซึ่งทำให้ฝ่ายเชลซียังนำเป็นจ่าฝูงหลังจากนั้น ส่วนกรุ๊ปผีแดง ยังอยู่อันดับที่ 8 ของตาราง เพราะมีแต้มตามหลังจ่าฝูงถึง 10 คะแนนเต็มๆ หลังทะลุไป 9 นัด

เพื่อวันนี้เราลองมาดูคะแนนความทำเป็นของนักเตะทั้งสองฝ่ายว่าใครได้คะแนนเท่าไหร่กันบ้าง


อันดับคะแนนความสมรรถจากเว็บไซต์เดลีเมล์ คะแนนเต็ม 10




กลุ่มแมนฯ ยูไนเต็ด
  • ดาบิด เด เคอา : ได้ 6.5 คะแนน
  • ราฟาเอล ดา ซิลวา : ได้ 6 คะแนน
  • คริส สมอลลิ่ง : ได้ 7 คะแนน
  • มาร์กอส โรโฮ : ได้ 7 คะแนน
  • ลุค ชอว์ : ได้ 6.5 คะแนน
  • อัดนาน ยานาไซ : ได้ 5.5 คะแนน
  • ดาลีย์ บลินด์ : ได้ 6 คะแนน
  • อังเคล ดิ มาเรีย : ได้ 7 คะแนน
  • ฆวน มาต้า : ได้ 4.5 คะแนน
  • มารูยาน เฟลไลนี่ : ได้ 6.5 คะแนน
  • โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ : ได้ 7 คะแนน

ตัวสำรอง

  • เจมส์ วิลสัน: ได้  6 คะแนน


ผู้จัดการพวก

  • หลุยส์ ฟาน กัล : ได้ 6 คะแนน






คณะเชลซี

  • ติโบต์ กูร์กตัวส์ : ได้ 7 คะแนน 
  • บรานิสลาฟ อิวาโนวิช : ได้ 5 คะแนน 
  • แกรี่ เคฮิลล์ : ได้ 7 คะแนน 
  • จอห์น เทอร์รี่ : ได้ 7 คะแนน 
  • ฟิลิเป้ หลุยส์ : ได้ 6.5 คะแนน 
  • เชส ฟาเบรกาส : ได้ 7 คะแนน 
  • เนมานย่า มาติช : ได้ 6.5 คะแนน 
  • วิลเลี่ยน : ได้ 6 คะแนน 
  • ออสก้าร์ : ได้ 6.5 คะแนน 
  • เอแด็น อาซาร์ : ได้ 7 คะแนน 
  • ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา : ได้ 7.5 คะแนน 

ทะเบียนตัวสำรอง

  • เคิร์ท ซูม่า : ได้ 6 คะแนน 
  • จอห์น โอบี มิเกล : ได้  6.5 คะแนน 
  • อันเดร เชือร์เล่ : ได้ 6 คะแนน


ชื่อผู้จัดการคณะ

  • โชเซ่ มูรินโญ่ : ได้ 7 คะแนน


กรรมการผู้ตัดสิน

  • ฟิล ดาวน์ : ได้ 8 คะแนน

ป๋าเฟอร์กี้เตือนแนวรับทำผีถดถอย




หลังจากที่ เฟอร์กี้ ได้วิเคราะห์บอลจวกแนวรับ เหล่าปีศาจแดง ที่ทำฝ่ายก้าวถอยหลังถึงสองก้าว ทั้งที่มีทั้งกุนซือที่ดี แนวรุกที่ดีเหมือนทำให้คณะก้าวหน้าไปก้าวหนึ่งแล้ว แต่มั่นใจ ฟาน กัล คือคนที่ใช่ กับจะแก้วิกฤติของคณะได้

ซึ่งเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือของ กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับเป็นห่วงอดีตต้นสังกัดเพราะเฉพาะผลงานเกมรับที่พร้อมเสียประตูได้ทุกนัดที่ลงทำการแข่งขัน ขัดกับเกมรุกที่ทำได้น่ากลัว โดยนิยามว่าเป็นการเดินหน้าหนึ่งก้าว แต่ต้องถอยหลังถึงสองก้าวของพวก ฝ่ายปีศาจแดง แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงเชื่อมั่นว่า หลุยส์ ฟาน กัล เฮดโค้ชคนใหม่จะรอบรู้แก้วิกฤติดังกล่าวได้แน่นอน

ด้วยกันอดีตเฮดโค้ชชาวสกอตผู้ล้างมือในอ่างทองคำเรียบร้อยแล้วเท่าที่ปี 2013 ให้สัมภาษณ์เปลี่ยนสื่อถึงเรื่องนี้ ระหว่างโปรโหมตความก้าวหน้าของหนังสืออัตชีวพระประวัติเล่มใหม่ของตนเอง ว่า แน่นอน ฟาน กัล เป็นคนที่ใช่เหตุด้วยงานนี้อยู่แล้ว เป็นการก้าวหน้าของเหล่าเราไปก้าวหนึ่ง แต่ก็ต้องเดินถอยหลังกลับมาสองก้าวเช่นเกัน กับผลงานเกมรับที่เปราะบางในเวลานี้

ในขณะเดียวกัน เซอร์ อเล็กซ์ ยังกล่าวถึงการแต่งตั้ง เดวิด มอยส์ ขึ้นมารับตำแหน่งแทนที่ตนเองที่วางมือไป เพราะว่าเปิดเล่าถึงคำแนะนำเดียวของตนเพราะบอกว่าให้เก็บผู้ช่วยอย่าง ไมค์ ฟีแลน ไว้ แต่สุดท้ายอดีตกุนซือ เอฟเวอร์ตัน ก็ไม่ได้ทำตามคำแนะนำ พร้อมทั้งดึงทีมงานตัวเองเข้ามาแบบยกชุดทันที


โค้ชฟานกัล ฉุนที่ฟานเพอร์ซี่ ถอดเสือจนโดนใบเหลือเลื่องง




ภายหลังที่หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือดัตช์ของ กรุ๊ปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความไม่พอใจภายหลัง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าตัวเก่งของฝ่าย แสดงความดีใจเกินเหตุ ในจังหวะยิงประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย

นั่นทำให้ต้นสังกัดไล่เจ๊า กลุ่มเชลซี ในไฮไลท์ฟุตบอลเกมลีก 1-1 ทันทีที่คืนวันอาทิตย์ที่ทะลุมา เพราะว่าชี้เป็นการกระทำอย่างไร้สติ จนตัวเองต้องสังเวยใบเหฟุ้งเฟื่องงแบบที่ไม่น่าโดน

พร้อมทั้งเทรนเนอร์ทัพ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ฟาน เพอร์ซี่ ทำอะไรโง่เกินไป ภายหลังได้ประตู ผมเข้าใจว่าจังหวะนั้นมันอาจจะตื่นเต้น แต่ก็ไม่ควรถึงขั้นถอดเสื้อแล้วโยนแบบนั้น ก็เพราะว่าสุดท้ายก็ต้องโดนใบเหเลื่องลือง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่ฉลาดเลย

พร้อมด้วยโปรแกรมบอลหลังจากนั้นของกรุ๊ป แมนฯยูฯ ในเกมลีก คือการลงทำศึก แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ซึ่งจะพบกับฝ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเอติฮัต สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษจิกายน เวลา 20.30 นาฬิกา ทางช่อง 3 ถ่ายทอดสด

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ผลบอล: มาเพ่งพิศที่สุดข้าวของเครื่องใช้ศึกพรีเมียร์ลีก 7 นัดแต่เดิมกันดีกว่า

วิเคราะห์บอลพรุ่งนี้ ที่สุดของที่สุดในช่วงเปิดมู่ลี่ออกสตาร์ต




ในเกมส์ฟุตบอลสุดอาทิตย์นี้บรรยากาศของพรีเมียร์ลีกจะกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ ภายหลังที่ได้พักยาวมาถึงสองอาทิตย์เพื่อหลีกทางให้โปรแกรมบอลคณะชาติ เพราะว่าแต่ละคณะจะต้องลงมาห้ำหั่นกันอีกครั้ง เพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ พอลอดพ้นอีก 31 นัดต่อจากนี้

พร้อมด้วยเพื่อการขับเคี่ยวกันในช่วงออกสตาร์ตของฤดูกาลกาลนี้ก็ได้ทะลุทะลวงไปแล้ว 7 นัดแรก ซึ่งก็พอจะทำให้มองเห็นภาพได้คร่าวๆ ว่าหน้าตาของฤดูกาลนี้น่าจักออกมาเป็นยังไงบ้าง พร้อมทั้งหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนได้หยิบประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับความเป็นที่สุดๆ จากช่วงเริ่มทำต้นฤดูกาลนี้มาให้ดูกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง





1.นักเตะที่เด่นที่สุด: ดิเอโก้ คอสต้า


เพราะการเสริมทัพของเชลซีในซัมเมอร์นี้ดูจักลงล็อกไปหมด ทั้ง 1.ติโบต์ กูร์กตัวส์, 2.เชส ฟาเบรกาส พร้อมกับ 3.ดิเอโก้ คอสต้า ที่ต่างก็ยักย้ายถ่ายเทมาพร้อมกับโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น พร้อมทั้งเป็นกำลังสำคัญในการพาสิงโตสีครามทะยานขึ้นจ่าฝูงแบบนำโด่ง

ซึ่งตัวของคอสต้าคือคนที่เข้ามาอุดช่องโหว่ หรือไม่ก็เข้ามาแก้ปัญหาที่เคยเจอจากฤดูกาลก่อน ให้กับทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่ ได้อย่างแท้เป็นแน่แท้ ด้วยการทำประตูได้อย่างต่อเนื่องด้วยกันเป็นกอบเป็นกำถึง 9 ลูก เข้าไปแล้วเฉพาะในลีก และผลงานของเขาก็โดดเด่นเกินหน้าเกินตาดาวเตะทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่คนไหนๆ จนถึงปัจจุบันนี้





2.เป็นเกมที่หักมุมที่สุด :  หมู่เลสเตอร์ 5-3 ฝ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


ซึ่งภายหลังชนะนัดแรกในฤดูกาลได้ในเกมที่ 4 ด้วยการเปิดบ้านไล่ทุบ เหล่าควีนส์ปาร์ค 4-0 กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ทำท่าเหมือนจักเรียกความมั่นใจกลับมาได้

กับเท่าที่ยกพลไปเยือนอีกหนึ่งน้องใหม่อย่าง เหล่าเลสเตอร์ในเกมถัดไป คณะปิศาจแดงที่คับคั่งด้วยซูเปอร์สตาร์ทั้งเก่าพร้อมด้วยใหม่ ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างจี๊ดจ๊าด ด้วยกันขึ้นนำผลบอล 2-0 อย่างรวดเร็ว ก่อนขยับหนีไปเป็น 3-1 อีกก่อนที่ทุกอย่างจักพลิกผัน ครั้นเมื่อเสียจุดโทษแบบโชคร้ายโดนไล่มา พร้อมด้วยโดนตีเสมออีกอย่างรวดเร็ว

โดยภายหลังนั้นทุกอย่างก็ปั่นป่วนไปหมดด้วยว่าผีแดง ก่อนจักโดนแซงขึ้นนำ 4-3 พร้อมทั้งเหระบือผู้เล่น 10 คน ในช่วงท้ายเกมจนโดนประตูที่ 5 ปิดท้าย นับเป็นครั้งแรกในรอบ 853 นัดที่ พวกแมนฯ ยูไนเต็ดลงเตะพรีเมียร์ลีกมา ที่ วางธุระให้การขึ้นนำ 2 ประตู กลับมาเป็นความพ่ายพ่ายได้





3.เป็นพวกที่สร้างเซอร์ไพรส์ที่สุด: กรุ๊ปเซาธ์แฮมป์ตัน


ฝ่ายเซาธ์แฮมป์ตันได้เสียดาวดังของทีมไปเป็นกระบิในช่วงซัมเมอร์ ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้จัดการฝ่าย และทำท่าว่าจะได้รับผลกระทบเต็มๆ

เพราะภายหลังที่ โรนัลด์ คูมัน ได้นำกรุ๊ปออกสตาร์ตนัดแรกด้วยความพ่ายจำนน ด้วยกันในนัดต่อมาก็ทำได้แค่เสมอ

แต่เมื่อได้นักเตะใหม่อย่างกราเซียโน่ เปลเล่ เปิดผนังที่จักติดเครื่องได้ในการเข้ามาแทนที่ ริคกี้ แลมเบิร์ต ขณะที่ ดูซาน ทาดิช ก็ได้เข้ามารับหน้าที่สร้างสรรค์เกมแทน อดัม ลัลลาน่า ที่จากไป คณะนักบุญก็บุกเบิกต้นโชว์ฟอร์มได้อย่างไหลลื่นเหมือนเดิม ไม่ก็อาจจักมากกว่าเดิม จนทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตารางแล้ว หลังชนะติดต่อกันถึง 4 นัด ก่อนจักเพิ่งจำนนอีกครั้งในเกมล่าสุด





4.เป็นหมู่ที่เดี้ยงอื้อซ่าที่สุด: กรุ๊ปอาร์เซนอล


ซึ่งทางด้านของ แชด ฟอร์ไซธ์ สตาฟฟ์โค้ชด้านฟิตเนสของเยอรมัน อำลาฝ่ายแชมป์โลกมาร่วมงานกับกลุ่มอาร์เซนอลในซัมเมอร์นี้

พร้อมด้วยกลับกลายเป็นว่าคณะปืนใหญ่ยังถูกรุมเร้าด้วยปัญต่างว่าารบาดเจ็บของนักเตะมากหลายเหมือนเดิม ไม่ก็อาจจักก่ายกองกว่าเดิมด้วยซ้ำ

ซึ่งตราบดาวดังหลายคนเดี้ยงกันตั้งแต่ต้นซีซั่น จนต้องพักยาวบ้างสั้นบ้างมาเกือบครบตัวหลักๆ แล้ว ด้วยกันอาจจะมีส่วนทำให้ผลงานของเหล่าไม่เปรี้ยงอย่างที่คาดหวังไว้ พร้อมด้วยยังอยู่ปางอันดับ 8 ของตารางเท่านั้น จากการชนะแค่ 2 จาก 7 นัดแรก





5.เป็นซีนที่ดราม่าที่สุด: ทันทีที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ยิงประตูกรุ๊ปเชลซี


พวกเชลซีชนะถึง 6 จาก 7 นัดแรกในฤดูกาลนี้ เพราะว่าเกมเดียวที่เสมอคือนัดที่ไปเยือน หมู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้

นัดนี้คณะสิงห์ครามเกือบจะเอาชนะ กลุ่มแชมป์เก่าได้อยู่แล้ว แต่ก็ถูกปิดประตูโอกาสนั้นโดย แฟรงค์ แลมพาร์ด นักเตะที่เคยสร้างสถิติไว้กับพวกมากมาย ก่อนจักถูก ให้เป็นอิสระตัวออกไปในซัมเมอร์นี้

เพราะว่ามิดฟิลด์วัย 36 ปี ได้ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองให้ กรุ๊ปเรือใบสีฟ้า ซึ่งยืมตัวเขามาจาก หมู่นิวยอร์ก ซิตี้ ต้นสังกัดใหม่ในเมเจอร์ลีก ด้วยกันได้ยิงประตูตีเสมอกรุ๊ปเก่าของตัวเองได้ก่อนหมดเวลา 5 นาที พร้อมทั้งเป็นไปตามธรรมเนียที่เจ้าตัวจะไม่แสดงความดีใจออกมา

เพราะท่านอาจติดตามชม ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก ไฮไลท์ฟุตบอล เพิ่มเติมได้เลย


ที่มา: http://footballclubpza.blogspot.com/