แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวลิเวอร์พูล แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวลิเวอร์พูล แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

โปรแกรมบอล: ทันทีที่เจอร์ราร์ด เข้ากับการชี้ขาดใจ ที่พลิกกลับชีวิต

จนกระทั่งเจอร์ราร์ด กับการตกลงใจ ที่เปลี่ยนชีวิต




วิเคราะห์บอลคงพูดไม่ผิดนักถ้าจะเล่าว่า ภาพของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ในชุดเสื้อสีอื่นที่นอกเหนือจากสีแดงเพลิงของคณะลิเวอร์พูล นั้นเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือจินตนาการของเหล่า Kopites ทั้งปวง

ซึ่งหมู่มวลค็อปชนนั้นไม่เคยคิดมาก่อนแม้สักเวลานาทีว่ากัปตันคณะยอดดวงใจของพวกเขานั้นจะจากสโมสรแห่งนี้ไปอยู่กับหมู่ใดอีก เพราะเฉพาะในช่วงบั้นปลายชีวิตเช่นนี้

แต่ว่าสิ่งที่ทุกคน เชื่อ นั้นคือเจอร์ราร์ด จักอยู่กับ หมู่ลิเวอร์พูล สโมสรเดียวตลอดไปจนเลิกเล่นฟุตบอล มีสถานะเป็น One-man-club เป็นตัวอย่างของนักฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่ที่รับใช้สโมสรไปจวบจนลมหายใจสุดท้ายในเกมลูกหนัง

แต่ว่าน่าเสียดายพร้อมกับน่าเสียใจที่สิ่งเหล่านั้นคงไม่มีวันเกิดขึ้น เมื่อสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด เตรียมประกาศการตกลงใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต

ที่ว่าเขาคงต้องไปจาก ถิ่นแอนฟิลด์แล้วหลังจบฤดูกาลนี้

ซึ่งความเป็นแน่แท้แล้วเจอร์ราร์ด เคยมีโอกาสที่จักไปจาก เหล่าฟุตบอลลิเวอร์พูล มาก่อนครับ พร้อมกับเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงมากด้วยอย่างน้อยถึง 2 ครั้งด้วยกัน




ในครั้งแรกในช่วงหลังจบฤดูกาล 2003 - 2004
พร้อมทั้ง.oอีกครั้ง  ซึ่งใกล้เคียงยิ่งกว่าในช่วงหลังจบฤดูกาล 2004 - 2005 เพราะว่าทั้งสองครั้งเป็น ทีมเชลซี ที่พยายามจักเจรจาเพื่อดึงตัวเขาไปร่วมกรุ๊ปให้ได้ พร้อมด้วยครั้งหลังนั้นเจอร์ราร์ด ตอบตกลงด้วยวาจาไปแล้ว

แต่ว่าในคืนสุดท้ายหลังทบทวนตัวเองอย่างดี เสียงของหัวใจทำนูลกับเขาว่า แม้การไปอยู่ พวกเชลซีจักทำให้เขามีโอกาสประสบความสำเร็จมากมาย แต่จักไม่มีเสื้อสีไหนนอกจากสีแดงของลิเวอร์พูล สนามใดนอกเหนือจากแอนฟิลด์ กับแฟนบอลกลุ่มไหนนอกเหนือจากเหล่า หมู่เดอะ ค็อป ที่เขาต้องการรับใช้

ตัวของเจอร์ราร์ด จึงไม่ได้เป็นเช่นกัปตันทีมผู้ยิ่งใหญ่

แต่ว่าเขายังเป็นผู้รับใช้สโมสรที่จงรักภักดีมากที่สุดคนหนึ่งด้วย





รวมทั้งโอกาสของความสำเร็จ กับเงินตราไม่ใช่สาระสำคัญในชีวิต เพราะสิ่งสำคัญที่สุดที่เขาต้องการทำให้ได้คือการนำ เหล่าลิเวอร์พูล กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งการจะทำให้ได้เช่นนั้น นั่นหมายถึงการ เสียสละ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

แต่ว่าในขณะที่ซูเปอร์สตาร์อย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส ด้วยกันหลุยส์ ซัวเรซ เโจษกที่จักทิ้งสโมสรอย่างกลุ่มลิเวอร์พูลไปเพราะรู้ถึง ศักยภาพ ของยักษ์หลับในอดีตว่าเป็นเรื่องยากที่จะกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง

ดังนั้นเจอร์ราร์ด ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่กล้าปฏิเสธสโมสรอย่าง คณะบาเยิร์น มิวนิค กับ ทีมเรอัล มาดริด เพื่ออยู่ที่แอนฟิลด์ถัดจาก

ก็ไม่มีใครรู้ครับว่าน้ำหนักของ ความรับผิดชอบ ที่เจอร์ราร์ด แบกรับแทนทุกคนตลอดระยะเวลา 11 ปีของการเป็นกัปตันกลุ่มนั้นหนักหนาแค่ไหน

ซึ่งมีเหมือนเขาเท่านั้นที่รู้พร้อมทั้งรับไว้ด้วยความเต็มใจ เพราะมิได้ปริปากใดๆไฮไลท์พรีเมียร์ลีก

ถึงแม้จักไม่สมรรถบรรลุภารกิจในการนำพาสโมสรกลับคืนสู่จุดสูงสุดได้ โดยเฉพาะกับการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ซึ่งทำได้ดีที่สุดปางแค่การเป็นรองแชมป์ 3 ครั้งในฤดูกาล
2001 - 2002
2008 - 2009
2013 - 2014

ซึ่งก็ได้จบลงอย่างโศกนาฏกรรม จนกระทั่งเจอร์ราร์ด เป็นคน ลื่นล้ม และ ให้ความเป็นไทให้โอกาสครั้งเดียวในชีวิตของเขาหลุดมือไป

แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาด้วยกันเหล่าเดอะ ค็อป นั้นมี ความทรงจำ ที่งดงามร่วมกันมากมาย

นับจากวันแรกที่ลงสนามในฐานะตัวสำรอง สู่ประตูแรกที่สวยงามในเกมกับเชฟฟิลด์ เวย์นสเดย์ ก้าวสู่การเป็นกองกลางตัวหลักของเหล่า พร้อมทั้งการเป็นกัปตันคณะ

ซึ่งจาก ปาฏิหารย์ที่อิสตันบูล กับโทรฟี่ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 2005 สู่ ปาฏิหารย์แห่งคาร์ดิฟฟ์ กับโทรฟี่เอฟเอ คัพ ในปี 2006



ดังนั้นเจอร์ราร์ด เป็นทั้งแรงบันดาลใจ และศูนย์รวมใจของ กรุ๊ปลิเวอร์พูลตลอดมา

แต่ว่า ขณะวันเวลาเดินทางมาถึงวันที่แข้งขานั้นไม่แข็งแรงเหมือนก่อน พละกำลังไม่มีเหมือนเก่า นักฟุตบอลผู้ทระนงในการเล่นอันสง่างามของตัวเองอย่างเจอร์ราร์ด ยังไม่อาจตัดใจยอมรับสภาพของตัวเองได้

ซึ่งรายได้และระยะเวลาในสบถสาบาน 12 เดือนที่ คณะลิเวอร์พูล เพิ่งจักมอบให้ในเดือนพฤศจิกายน

- ซึ่งนี่จักเป็นหนึ่งในสิ่งที่เป็นคำถามว่าเหตุใดบอร์ดบริหารhttp://sport.sanook.com/football/premierleague/จึงดำเนินการล่าช้าขนาดนี้

- กับไม่สำคัญเท่ากับความรู้สึกว่าเขา นักฟุตบอลผู้เคยเป็นเบอร์หนึ่งตลอดกาล จะต้องตกอยู่ในฐานะตัวสำรองที่ต้องเฝ้ารอโอกาสตัวเองอย่างอดทน หรือไม่ก็สมมติว่าลงตัวแน่นอนก็ถูกตราหน้าว่าเป็น ตัวถ่วง ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ็บปวดมากในความรู้สึก

ถ้าสมมติว่าอยู่อย่างนี้ สู้จากไปเสียดีกว่า ไปค้นหาความท้าทายใหม่ในบั้นปลายของชีวิตการเล่น ไปในที่ที่เขายังเป็นได้เป็นเบอร์หนึ่งได้อีกครั้ง

ซึ่งก็ไม่มีหนทางใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว

ดังนั้นนี่จึงเป็นการปลงใจ เพื่อตัวเอง ครั้งแรกพร้อมทั้งครั้งเดียวของเจอร์ราร์ด เป็นการ ตัดสินใจแห่งชีวิต ที่เดอะ ค็อปทุกคนควรต้องยอมรับพร้อมทั้ง ปลดเปลื้องให้เขาได้ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง เช่นกันกับเพื่อให้สโมสรได้ก้าวเดินถัดจากข้างหน้าไม่ต้องเสียเวลากังวลกับไม้ใกล้ฝั่งเช่นเขาอีก

และการตัดสินใจครั้งนี้ยังทำให้ทุกคนได้ ตระหนัก ถึงความยิ่งใหญ่ของนักฟุตบอลคนนี้อีกครั้ง เพราะว่าบางทีการมองจากเบื้องหน้านั้นเราอาจไม่เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเจอร์ราร์ด ได้เท่ากับการมองจากเบื้องหลังในวันที่เขาต้องไป

ถึงแม้ว่าเจอร์ราร์ด จักไม่ได้ลงนามในอนุสัญญาฉบับสุดท้ายที่สโมสรมอบให้ พร้อมทั้งแม้จะต้องร่ำลาจากกันไปก่อนในวันนี้

แต่ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเพื่อตารางบอลสโมสรตลอดระยะเวลา 16 ปีในการเป็นนักเตะ กับอีก 25 ปีที่ใช้ชีวิตในรั้วแอนฟิลด์ ด้วยกัน 34 ปีที่มอบทั้งกายด้วยกันใจให้แก่ลิเวอร์พูล สโมสรรักแรกและรักเดียว

หากต่อให้จะไม่ได้สถานะ One-man-club เหมือนเจมี่ คาร์ราเกอร์ - แล้วเจอร์ราร์ด นั้นยังคงเป็นตำนานหมายเลขหนึ่งในดวงใจของเดอะค็อปชนเสมอ ในฐานะ มิสเตอร์ พวกลิเวอร์พูล ที่ไม่มีใครทำได้ทดแทนได้ตลอดกาล

ซึ่งสิ่งสุดท้ายที่เจอร์ราร์ด จะมอบให้แก่เดอะ ค็อป คือ สัญญาใจ ที่จะสนทนากล่าวกับทุกคนว่าอย่าได้เศร้าเสียใจนาน

เพราะว่าการจากลาครั้งนี้เป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น

ซึ่งตราบใดถึงเวลา เขาจะกลับมา ด้วยกันจักไม่มีวันจากไปไหนอีก !!

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ข่าวสารพรีเมียร์ลีกพวกหงส์แดง ลิเวอร์พูลส่วนหลังปิดฉากศึกพรีเมียร์ลีกที่ทะลุมา

กรุ๊ปพาเลซพลิกแซงหักปีกหงส์แดง3-1




ซึ่งหลังจากที่วิเคราะห์ผลบอลเหล่าหงส์แดง ยังโชว์ฟอร์มแย่ๆ ต่อเนื่อง ภายหลังที่อุตส่าห์ได้ แลมเบิร์ต ที่ยิงให้ทีมนำก่อนในสองนาทีแรก แต่สุดท้าย พวกพาเลซ นั้นรัวทีเดียวสามลูกรวดพลิกกลับมาคว้าชัยไป 3-1 ทำให้อันดับไปรั้งที่ 12 ของลีกเรียบร้อย

เพราะที่การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014-2015 ที่สนาม เซเฮิร์ส พาร์ค  คณะคริสตัล พาเลซ ต้อนรับการมาเยือนของ กลุ่มหงส์แดง ลิเวอร์พูล

ซึ่งในนาทีที่ 2 แฟนๆ เจ้าถิ่นต้องถึงกับช็อก ภายหลัง เหล่าคริสตัล พาเลซ นั้นต้องมาเสียประตูไปก่อน จากจังหวะที่ อดัม ลัลลาน่า เปิดข้ามแนวรับให้ ริคกี้ แลมเบิร์ต หนีการประกบ ก่อนจักพักบอลแล้วซัดเรียดทะลุทะลวงมือ จูเลี่ยน สเปโรนี่ เข้าไป เหล่าลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0

ต่อเนื่องมาถึงนาทีที่ 17 ครั้นทีมพาเลซ ก็ได้เฮบ้างเมื่อมาตามตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 ขณะ ยานนิค โบลาสซี่ ลากหนีแนวรับ ฝ่ายหงส์แดง ก่อนจะปลงใจซัดเต็มข้อด้วยขวาระยะ 25 หลา บอลเรียดหนีมือ ซิมง มินโญเลต์ พุ่งชนเสากระดอนออกมา แต่ลูกยังเข้าทาง ดไวท์ เกล วิ่งมาซ้ำจ่อเข้าไปได้สำเร็จ

ในนาทีที่ 34 ฝ่ายหงส์แดง นั้นเกือบได้ประตูออกนำอีกครั้ง คราวนี้ โจ อัลเลน ครอสจากฝั่งซ้ายไปให้ ริคกี้ แลมเบิร์ต ที่อยู่เสาไกลได้โอกาสขึ้นโขกคนเดียวจ่อๆ แต่โชคไม่ดีบอลดันหลุดกรอบออกไปนิดเดียว

นาทีที่ 36 คณะพาเลซ นั้นต้องถอดเอา ดาเมี่ยน เดลานี่ย์ ที่ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง เบรเด้ ฮันเกลันด์ ลงมาดูแลเกมรับของกรุ๊ปแทน

กับในช่วงท้ายครึ่งแรกไม่มีประเติมเพิ่ม หมดเวลาทั้งสองพวกเสมอกันไปก่อน 1-1

ซึ่งนาทีที่ 48 ทางด้านกลุ่มลิเวอร์พูล นั้นก็มาได้ลุ้นจากฟรีคิกระยะ 30 หลา สตีเว่น เจอร์ราร์ด รับหน้าที่ซัดแต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปเสียก่อน

ในนาทีที่ 53 ตัวของมาร์ติน สเคอร์เทล มาโดนใบเหโจษงเป็นคนแรกของเกม โทษฐานเจ้าตัวเข้าไปดึงแขนของ มารูยาน ชามัคห์ เพื่อเป็นการขัดขวาง

นาทีที่ 61 ฆาบี มานกิโย่ ต้องมารับใบเหเลื่องง หลังเจตนาไปดึง ชามัคห์ ที่หน้าเขตโทษ

กับในนาทีที่ 71 ทีมหงส์แดง นั้นได้ตัดสินใจถอด อดัม ลัลลาน่า ออก แล้วส่ง ฟาบิโอ บอรินี่ ลงสนามเพื่อลุ้นทำประตูให้เหล่าเพิ่ม

ต่อมาในนาทีที่ 74 พวกลิเวอร์พูล นั้นต้องถอด โจ อัลเลน ที่มีปัญหาเลือเลื่องกออกบนศีรษะที่แตกมาจากครึ่งแรก เพราะว่าเปลี่ยนเอา เอ็มเร่ ชาน ลงสนามมาช่วยเกมแดนกลางแทน ขณะที่ คณะพาเลซ ก็ส่งให้ เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ลงสนามเป็นคนที่สอง เพราะว่าเปลี่ยนเอา เจสัน พันเชี่ยน ออกไป

และครั้นเมื่อถึงนาทีที่ 78 แฟนบอลฝ่ายคริสตัล พาเลซ ก็ได้เฮกันทั้งสนามครั้นเหล่ามาทำประตูที่สองสำเร็จ จากจังหวะที่บอลกำลังลอยกลางอากาศ เดยัน ลอฟเรน ที่ตามประกบ ยานนิค โบลาสซี่ จากริมเส้นไปล้มแล้วบอลตกเข้าหัวพอดีให้ดาวเตะ หมู่พาเลซ เลี้ยงหนีไปได่ ก่อนเจ้าตัวจักตบเข้ากลางให้ โจ เลดลี่ย์ วิ่งมาซัดตรงกลางลอดตัว ซิมง มินโญเลต์ เข้าไป เจ้าถิ่นพลิกขึ้นนำ 2-1

ต่อมาในนาทีที่ 81 สถานการณ์ยังเป็นใจให้เจ้าถิ่นต่อเนื่อง คราวนี้เหล่ามาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ ไมล์ เยดินัค วิ่งมาปั่นด้วยขวา บอลเลี้ยวข้ามกำแพง ก่อนจักอ้อมหนีมือ มินโญเลต์ เข้าไปอย่างสวยงาม หมู่คริสตัล พาเลซ ได้นำเพิ่มอีกเป็น 3-1

นาทีที่ 86 กลุ่มพาเลซ ปลงใจถอด ยานนิค โบลาสซี่ ที่เกมนีทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมออกไปพักท่ามกลางเสียงปรบมือจากแฟนๆ ในสนาม ก่อนจักให้ แบร์รี่ แบนแนน ลงมาเล่นแทน

เข้าสู่ช่วงท้ายเกมทั้งสองกรุ๊ปเกือบมีลุ้นได้ประตูกันหลายครั้งแต่ก็พลาดไป สุดท้ายหมดเวลา ฝ่ายคริสตัล พาเลซ ได้เปิดบ้านเอาชนะ กลุ่มลิเวอร์พูล ไปได้สำเร็จผลบอล 3-1

นั่นทำให้ พวกพาเลซ ได้เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนน ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 15 ของตาราง ส่วน ทีมหงส์แดง จากความพ่ายพ่ายนัดนี้ทำให้ฝ่ายตกมาอยู่อันดับ 12 เพราะว่ามีอยู่แค่ 14 คะแนน เท่านั้น

มาดูบัญชีรายชื่อผู้เล่น คริสตัล พาเลซ 4-4-1-1 :

  1. จูเลี่ยน สเปโรนี่ 
  2. มาร์ติน เคลลี่
  3. สก็ตต์ แดนน์
  4. ดาเมี่ยน เดลานี่ย์ เปลี่ยนตัว เบรเด้ ฮันเกลันด์ ลงมาในนาทีที่ 36
  5. โจเอล วอร์ด 
  6. เจสัน พันเชี่ยน เปลี่ยนตัว เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ลงมาในนาทีที่ 76
  7. ไมล์ เยดินัค
  8. โจ เลดลี่ย์
  9. ยานนิค โบลาสซี่ เปลี่ยนตัว แบร์รี่ แบนแนน ลงมาในนาทีที่ 86
  10. มารูยาน ชามัคห์ 
  11. ดไวท์ เกล


ผู้เล่นสำรอง

  1. เวย์น เฮเนสซี่ 
  2. วิลฟรีด ซาฮา 
  3. เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ 
  4. แอนดรูวส์ จอห์นสัน


มาดูรายนามผู้เล่น เหล่าลิเวอร์พูล 4-2-3-1 :

  1. ซิมง มินโญเลต์ 
  2. ฆาบี มานกิโย่
  3. มาร์ติน สเคอร์เทล
  4. เดยัน ลอฟเรน
  5. เกล็น จอห์นสัน 
  6. โจ อัลเลน เปลี่ยน เอ็มเร่ ชาน ลงมาในนาทีที่ 74
  7. สตีเว่น เจอร์ราร์ด 
  8. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
  9. ฟิลิปป์ คูตินโญ่
  10. อดัม ลัลลาน่า เปลี่ยน ฟาบิโอ บอรินี่ ลงมาในนาทีที่ 71 
  11. ริคกี้ แลมเบิร์ต


ผู้เล่นสำรอง

  1. แบร๊ด โจนส์ 
  2. โคโล่ ตูเร่ 
  3. อัลแบร์โต้ โมเรโน่ 
  4. ลูคัส เลว่า 
  5. ลาซาร์ มาร์โควิช


กรรมการผู้ตัดสิน : โจนาธาน มอสส์

ติดตามชมดูคลิป ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก


เดอะคล็อปป์ได้โผล่ชื่อนั่งแท่นกุนซือหงส์แทนบีร็อด




ซึ่งบีร็อด นั้นคงจักได้เก้าอี้ร้อน ภายหลังที่เจอร์เก้น คล็อปป์ ปรากฏชื่อเตรียมนั่งแท่นบัลลังก์กุนซือใหม่ เหล่าหงส์แดง หลังผลงานโคตรแย่ เก็บชัยได้แค่ 2 นัดจาก 12 เกม

พร้อมทั้งก็ดูเหมือนขาเก้าอี้กุนซือของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการคณะ ลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะตั้งต้นสั่นคลอนเสียแล้ว ทันทีที่ล่าสุดมีรายงานว่า กลุ่มหงส์แดง ได้วางตัว เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ของ พวกโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ฝ่ายดังแห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน เข้ามาเสียบตำแหน่งแทน ภายหลังที่ บีร็อด นั้นเพิ่งพาทีมบุกไปจำนน กรุ๊ปคริสตัล พาเลซ ที่ ถิ่นเซลเฮิร์ทส์ พาร์ค 1-3 เท่าที่วันอาทิตย์ที่ทะลวงมา วันที่ 23 พฤศจิกายนที่ลอดมา

ซึ่งโปรแกรมบอลพวกหงส์แดง นั้นได้ออกสตาร์ทฤดูกาล 2014 - 2015 ได้อย่างย่ำแย่ เก็บชัยชนะได้ปาง 2 นัดเท่านั้นจากเกมลีก 12 นัดหลังสุด แถม 3 นัดล่าสุดพ่ายแพ้รวดทั้งหมด รั้งอยู่ที่ 12 ของตาราง แข่ง 12 นัด มี 14 แต้ม

นั่นจึงทำให้แฟนๆ ชาวเดอะ ค็อป พร้อมทั้งเหล่าบรรดาเกจิลูกหนังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะล่าสุดมีรายงานเกิดขึ้นว่าทางบอร์ดบริหารของ คณะลิเวอร์พูล ได้วางแผนทาบทาม คล็อปป์ เข้ามาทำหน้าที่แทน ร็อดเจอร์ส หลังเจ้าตัวนั้นเคยออกมายอมรับว่าสนใจที่จะเข้ามาทำงานใน อังกฤษ

พร้อมทั้งที่ก่อนหน้านี้ กุนซือใหญ่ทัพ คณะเสือเหฟุ้งเฟื่องง ก็ได้เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องทำงานในแดนผู้ดีเอาไว้ว่า ผมคิดว่า อังกฤษ เป็นที่เดียวเท่านั้นที่ผมควรไปทำงาน ถัดจาก เยอรมัน ผมคิดว่า อังกฤษ นี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว ก็เพราะว่ามันเป็นประเทศเดียวที่ผมรู้จักภาษา ซึ่งการทำงานของผมมันจำเป็นต้องใช้ภาษาอย่างมาก พร้อมด้วยถ้าเกิดมีใครติดต่อผมมา มันก็น่าที่จักลองคุยดูนะ